posttoday

มาปลูก ‘บัว’ กันเถอะ

22 กุมภาพันธ์ 2561

บ้านเรานับเป็นแหล่งรวมไม้ประดับที่แห่งหนึ่งที่สำคัญของโลกก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นไม้เมืองร้อน

โดย...นิตยสารบ้านและสวน

บ้านเรานับเป็นแหล่งรวมไม้ประดับที่แห่งหนึ่งที่สำคัญของโลกก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นไม้เมืองร้อน ไม้เมืองหนาว ปลูกง่ายหรือยากอย่างไร เมืองไทยมีแทบทุกชนิด และนำมาปลูกประดับกันอย่างสวยงาม เช่นเดียวกับ "บัว" ที่คนไทยนำมาใช้ประโยชน์กันมากมาย ยิ่งในบ้านเราที่มีสภาพอากาศร้อนเป็นส่วนใหญ่ การปลูกไม้น้ำอย่างบัว จึงได้ทั้งความสดชื่นจากต้นไม้และความเย็นจากน้ำอีกด้วย

นอกจากนี้ บัวยังเป็นดอกไม้ที่สวยงามจนได้รับฉายาว่าเป็น "ราชินีแห่งไม้น้ำ" ทั้งยังถือเป็นต้นไม้ที่เป็น สิริมงคลแก่บ้าน และสามารถตัดดอกนำมาถวายพระได้อีกด้วย แต่บัวในเมืองไทยมีหลายร้อยสายพันธุ์ บัวบางพันธุ์ก็มีสภาพการปลูกแตกต่างกันออกไปในที่นี้จะขอกล่าวถึงสภาพการปลูกบัวโดยทั่วไป ดังนี้

มาปลูก ‘บัว’ กันเถอะ

ดิน ที่เหมาะสำหรับปลูกบัวทุก ชนิดคือ ดินเหนียว โดยเฉพาะดินเหนียวที่มีโพแทสเซียมสูงจะช่วยให้บัวเจริญเติบโตได้ดี หน้าดินไม่ควรมีซากพืช ซากสัตว์ปะปนอยู่ เพราะจะทำให้น้ำเน่า เสียได้ง่าย และเนื้อดินควรมีความลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร (ซม.)

น้ำ เป็นสิ่งสำคัญมากในการปลูกบัว ถ้าบัวได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ใบเหี่ยวแห้งและตายในที่สุด น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำสะอาด ไม่มีเศษวัชพืชหรือเชื้อโรคเจือปนอยู่ มีความเป็นกรด-ด่าง (pH) ประมาณ 5.5-8 อุณหภูมิประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส ส่วนความลึกและพื้นที่ผิวน้ำของอ่างหรือบ่อขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์บัว บัวทั่วๆ ไปต้องการน้ำลึกประมาณ 80-120 ซม. และพื้นที่ผิวน้ำมากกว่าหนึ่งตารางเมตร แต่ บัวบางชนิดก็สามารถเจริญเติบโตได้ในน้ำตื้นเพียง 10-15 ซม. พื้นที่ผิวน้ำกว้างเพียง 40 ซม. การปลูกบัวใน อ่างปูนหรือถังซีเมนต์จะทำให้น้ำใน อ่างมีสภาพเป็นด่าง (ค่าpH มากกว่า 7) ซึ่งจะทำให้น้ำเป็นสีเขียวและเกิดตะไคร่ได้ง่าย จึงควรปรับสภาพให้เป็นกลางก่อน

มาปลูก ‘บัว’ กันเถอะ

แสงแดด บัวต้องการแสงแดดอย่างน้อย 5-6 ชั่วโมงในช่วงครึ่ง วันเช้า ตั้งแต่เวลา 07.00-15.00 น. ซึ่งจะทำให้ต้นบัวสมบูรณ์และออกดอกดกยิ่งขึ้น บัวบางพันธุ์หากได้รับแสงแดดเต็มที่ในตอนบ่าย ใบและดอกอาจเหี่ยวหรือไหม้ได้ โดยเฉพาะบัวที่ปลูกในอ่างซีเมนต์ที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน ฤดูกาล บัวเจริญเติบโตได้ดีในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน ส่วนในฤดูหนาวอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง ความชื้นในอากาศมีน้อย มีช่วงกลางวันสั้น อุณหภูมิต่ำ (หรือปลูกบัวในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส) น้ำที่ปลูกบัวจะเย็น ส่งผลให้บัวบางพันธุ์หยุดพักการเจริญเติบโต ไม่ผลิใบใหม่ หรือใบหดสั้นลง จนกว่าจะถึงฤดูร้อนและฤดูฝนอีกครั้ง ซึ่งอาจแก้ไขโดยการปรับระดับน้ำให้ต่ำลงเพื่อให้ยอดอยู่ใกล้ผิวน้ำ จะช่วยให้อุณหภูมิใต้น้ำบริเวณยอดสูงขึ้น บัวก็จะเจริญเติบโตได้