posttoday

ใช้ชีวิตแบบ Eco-Life

26 มกราคม 2561

มลภาวะที่รายล้อมอยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็มีทั้งฝุ่น ควัน และสารเคมี แม้ภายในบ้านที่เราคิดว่าปลอดภัย

มลภาวะที่รายล้อมอยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็มีทั้งฝุ่น ควัน และสารเคมี แม้ภายในบ้านที่เราคิดว่าปลอดภัย แต่อากาศในบ้านก็ไม่ได้สะอาดไปกว่านอกบ้านเลย ไหนจะอุปกรณ์ทำความสะอาดที่มีทั้งสารเคมี น้ำยาจากสารสังเคราะห์ต่างๆ ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้เคลือบสีให้อยู่ทนทาน ทุกวันนี้หลายคนจึงหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น เกิดเป็นแนวคิดการใช้ชีวิตและทำสิ่งต่างๆ แบบรักษ์โลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ทั่วโลกเรียกกันว่า eco-friendly หรือ eco-life ลองมาดูเนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ “780 ไอเดีย ครบเครื่องเรื่องงานบ้าน” จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ ที่จะทำให้คุณได้ไอเดียดีๆ

1. ปลูกต้นไม้เพื่ออากาศบริสุทธิ์ ต้นไม้ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ปรับความชื้นให้เหมาะสม ลดเสียงรบกวนจากภายนอกและบังแดดได้ดี ช่วยให้ผ่อนคลายทั้งจิตใจและร่างกาย แถมยังดูดซับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและก๊าซโอโซนภายในบ้าน กำจัดเชื้อแบคทีเรียในชั้นบรรยากาศ ช่วยดูดสารพิษประเภทโลหะหนัก ดูดซับผงฝุ่นละเอียดและมลพิษทางอากาศ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ นอกจากนี้ การปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้านหรือใช้ต้นไม้ประดับตกแต่งในอาคาร ยังช่วยลดความร้อนและคลายเครียดได้ดี

2. ถ่ายเทอากาศ เมื่อต้องการให้อากาศถ่ายเท วิธีที่ใช้ได้ผลมากที่สุดคือ เปิดประตูและหน้าต่างทั้งหมดเพื่อรับลม ให้เปิดประตูและหน้าต่างทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที ในช่วงเวลาใดก็ได้ระหว่างเวลา 10.00-21.00 น. หลีกเลี่ยงการเปิดรับลมในช่วงเช้ามืดและตอนกลางคืน เพราะเป็นช่วงที่สิ่งสกปรกในอากาศลอยต่ำเป็นพิเศษ สำหรับห้องครัวซึ่งมีเตาแก๊ส เวลาประกอบอาหาร ควรเปิดหน้าต่างทิ้งไว้หรือใช้เครื่องดูดควันร่วมด้วย

3. กำจัดเชื้อรา เชื้อราภายในบ้านคือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง รวมถึงโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจต่างๆ และยังเป็นภัยต่อทารก เด็กเล็ก คนสูงวัย และผู้ป่วย นอกจากนี้ ไรฝุ่นจำนวนมหาศาลที่อยู่ตามผ้านวม ผ้าม่าน จะทำให้เกิดโรคหืด หลอดลมอักเสบ ภูมิแพ้ ฯลฯ เรากำจัดเจ้าสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยการทำความสะอาดและซักเท่านั้น

4. ใช้วอลเปเปอร์จากธรรมชาติ 100% วอลเปเปอร์ทั่วไป ได้แก่ “ซิลก์วอลเปเปอร์” ที่ผลิตจากวัสดุพีวีซี ซึ่งส่งผลให้ระบบต่อมไร้ท่อและฮอร์โมนของผู้สัมผัสมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง ลองเปลี่ยนมาใช้วอลเปเปอร์ชนิดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันมักเป็นอะครีลิคเรซินชนิดละลายในน้ำได้ เมื่อติดตั้งจะทาเคลือบด้วยน้ำยาป้องกันเชื้อรา ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ก่อให้เกิดแก๊สพิษใดๆ ดังนั้น หากต้องการใช้วอลเปเปอร์ชนิดนี้ ต้องมองหาตราประทับรับรองคุณภาพเป็นอย่างแรก เช่น องค์กรที่เกี่ยวกับอากาศบริสุทธิ์ หรือองค์กรเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ และห้ามลืมว่ากาวทาวอลเปเปอร์ชนิดนี้ก็ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน

5. ใช้ผลิตภัณฑ์ซักล้างแบบรักษ์โลก สารซักล้างต่างๆ ถูกผลิตด้วยหลักทางปิโตรเคมี คือต้องมีสารลดแรงตึงผิวและต้องทำความสะอาดได้ดี จึงมักผสมสารเคมีที่อาจให้โทษต่อร่างกาย กลิ่นสังเคราะห์ สารกันเสีย ฯลฯ ทั้งยังไม่สลายตัวไปตามธรรมชาติ จึงเป็นสาเหตุของน้ำเน่าเสีย และเมื่อตกค้างบนเสื้อผ้าก็ทำให้เกิดโรคผิวหนัง ลองหันมาใช้น้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดาแทน รับรองว่าปลอดภัยต่อผิว แถมยังราคาถูก

6. ใช้บรรจุภัณฑ์ต่างๆ แบบรักษ์โลก ปัจจุบันมีบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารหลายชนิดที่ไม่เป็นพิษและย่อยสลายง่าย ลองเปลี่ยนมาใช้ภาชนะสเตนเลส ไม้ กะลา กระดาษชานอ้อย หรือถ้วยชามดินเผาดูสิ ภาชนะเหล่านี้ใช้เวลาย่อยสลายน้อยกว่าโฟมหรือพลาสติกหลายเท่าตัว