posttoday

'ไซมิส คิน' ชูโมเดล สมาร์ทลิฟวิ่งในไทย

31 ตุลาคม 2560

ปัจจุบันการพัฒนาที่อยู่อาศัยของ ดีเวลอปเปอร์ในประเทศไทยไม่ได้ให้ความสำคัญแค่เรื่องดีไซน์รูปแบบ สิ่งอำนวยความสะดวก และราคา

โดย...อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

ปัจจุบันการพัฒนาที่อยู่อาศัยของ ดีเวลอปเปอร์ในประเทศไทยไม่ได้ให้ความสำคัญแค่เรื่องดีไซน์รูปแบบ สิ่งอำนวยความสะดวก และราคา เท่านั้น แต่มีการคำนึงในเรื่องของความปลอดภัยรวมถึงการนำอินโนเวชั่นเสริมสร้างให้สินค้ามีความแตกต่างจากโครงการทั่วๆ ไป ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มความสะดวกในการอยู่อาศัยแล้ว ยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลอีกด้วย

ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท เปิดเผยว่า บริษัทถือว่าเป็นผู้นำที่โดดเด่นด้านนวัตกรรมแห่งการอยู่อาศัย โดยอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างที่สะสมมาจากบริษัท ฤทธา ประกอบกับได้พันธมิตรมาร่วมต่อยอดพัฒนาโครงการ ทำให้บริษัทมีเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ล้ำสมัย

บริษัทยังเป็นต้นแบบสร้างบ้าน ที่แข็งแกร่งป้องกันแผ่นดินไหวได้สูงสุดที่ 7 ริกเตอร์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมสร้างบ้านด้วยระบบโมดูลาร์ ซึ่งบริษัท เซกิซุย เคมิคอล บริษัทรับสร้างบ้านอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นนำระบบดังกล่าวมาใช้กับโครงการของบริษัทเป็นรายแรกในไทย

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจและเป็นการสร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยใหม่ให้ผู้บริโภคชาวไทย บริษัทได้ร่วมมือโดยนำเทคโนโลยีและการสนับสนุนการตลาดจากบริษัท เซกิซุย เคมิคอล ในการพัฒนาโครงการไซมิส คิน มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด สมาร์ท ลิฟวิ่ง ซึ่งเป็นโครงการแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 23 ไร่ บริเวณซอยรามอินทรา 64

โครงการดังกล่าวประกอบด้วย บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม จำนวน 107 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยบ้านเดี่ยวเริ่ม 182-350 ตารางเมตร (ตร.ม.) ส่วนทาวน์โฮม ขนาดพื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 6.38-20 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการใหม่ในปีนี้ที่เปิดเพิ่มจากที่เปิดไปแล้ว 4 โครงการ มูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท

สำหรับไซมิส คิน มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของนวัตกรรมในการประหยัดพลังงาน โดยการใช้โซลาร์เพาเวอร์ซิสเต็มซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มคุณภาพและอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านผ่านสมาร์ทโฟน ระบบปรับอากาศที่ช่วยป้องกันมลพิษและฝุ่น ขณะที่โครงสร้างบ้านสามารถรองรับและป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ตามมาตรฐานระดับโลก รวมทั้งสามารถย้ายโครงสร้างบ้านไปสร้างในที่อื่นๆ ได้ ซึ่งโครงสร้างบ้านดังกล่าวผลิตโดยบริษัท เอสซีจี ไฮม์

พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมจัดงานวีไอพีเดยในวันที่ 11 พ.ย. และวันที่ 18 พ.ย. 2560 ซึ่งจะเป็นวันแกรนด์โอเพนนิ่ง โดยจะขายในราคาลดพิเศษ บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ จากราคา 20 ล้านบาท ลดเหลือ 17 ล้านบาท บ้านขนาดกลางราคา 12 ล้านบาท ลดเหลือ 10 ล้านบาท และทาวน์โฮมจาก 6.38 ล้านบาท ลดเหลือ 5.8 ล้านบาท จำนวนรวม 60 ยูนิตเท่านั้น

ด้านการลงทุนในปี 2561 นั้น บริษัทมีแผนลงทุนรวม 5 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดหรู 3 โครงการใน 3 ทำเล ได้แก่ โครงการเดอะ คอลเลกชั่น บาย ไซมิส สุขุมวิท 16 ติดกับอาคารเลค รัชดา ซึ่งเป็นคอนโด ระดับลักซ์ชัวรี่ ราคาขายเฉลี่ย 2.5 แสนบาท/ตร.ม. จำนวน 350 ยูนิต มูลค่าราว 3,500-4,000 ล้านบาท

โครงการไซมิส เอ็กซ์คลูซีฟ ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีรัชดา ภิเษก 120 เมตร จำนวน 400 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 2 แสนบาท/ตร.ม. มูลค่าโครงการ 2,500-3,000 ล้านบาท และโครงการจอยญ่า สุขุมวิท 87 ระดับราคาเฉลี่ย 1.5 แสนบาท/ตร.ม. มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีแผนร่วมทุนกับต่างชาติพัฒนา 2 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 1 หมื่นล้านบาท บนที่ดิน 20 ไร่ ในโซนรามอินทรา แบ่งเป็นโครงการออฟฟิศสูง 40 ชั้น ขนาด พื้นที่ก่อสร้าง 1 แสน ตร.ม. โดยอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนกับสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สิงคโปร์

ขณะที่อีกโครงการเป็นคอนโดสุขภาพ (เฮลตี้) ซึ่งเป็นการพัฒนาเพื่อขายพร้อมบริหารการเช่าเหมือนลักษณะไทม์แชริ่ง โดยมีดีเวลอปเปอร์และเอเยนซีจากจีนสนใจเข้ามาร่วมทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างหาพาร์ตเนอร์ด้านการแพทย์มาดูแล คาดว่าทั้งสองดีลจะมีความชัดเจนได้ในสิ้นปีนี้

ในส่วน 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะนำ 2 โครงการใหม่ คือ ไซมิส จอยญ่า และไซมิส เอ็กซ์คลูซีฟ ไปโรดโชว์ขายในจีนและอินเดีย ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการปีหน้า พร้อมจะเร่งระบายสต๊อกเก่ามูลค่า 300 ล้านบาทควบคู่ไป โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 7,000 ล้านบาท ส่วนรายได้ 2,000 ล้านบาท สำหรับปีนี้ได้ใช้งบซื้อที่ดิน 3,000 ล้านบาท ส่วนแบ็กล็อกมีเกือบหมื่นล้านบาท

ในยุคที่ตลาดเป็นของผู้ซื้อผู้บริโภค โครงการที่ตอบโจทย์ย่อมได้เปรียบ