posttoday

ภาษีที่ดินทุบเก็งกำไร

21 ตุลาคม 2560

บสส.คาดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจ่อบังคับใช้ปี 2562 ส่งผลให้เก็งกำไรอสังหาฯ ลดลง หวั่นกระทบธุรกิจอสังหาฯ

บสส.คาดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจ่อบังคับใช้ปี 2562 ส่งผลให้เก็งกำไรอสังหาฯ ลดลง หวั่นกระทบธุรกิจอสังหาฯ

นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 ยังเผชิญกับปัจจัยจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่รัฐบาลเตรียมจะประกาศใช้ในต้นปี 2562 อาจจะทำให้ภาพรวมธุรกิจชะลอตัวได้ เนื่องจากการซื้อเพื่อเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์จะลดลง ขณะที่ผู้บริโภคจะระมัดระวังในการซื้อและประมูลทรัพย์จากสถาบันการเงิน หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์ เพราะเกรงจะมีภาระจากการถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

สำหรับการดำเนินการของบริษัทปัจจุบันมีทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีเอ จำนวน 2 หมื่นล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ได้มีการจัดแคมเปญโดยการนำทรัพย์กว่า 200 รายการ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท มาจัดประมูล คาดว่าจะประมูลขายได้ 500-600 ล้านบาท ซึ่งมีทรัพย์เด่นที่ได้มาเมื่อเดือน ส.ค. 2560 คือ โรงแรมปอยหลวง อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ สูง 14 ชั้น เนื้อที่ 12 ไร่ ติดถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เปิดประมูลในราคาขั้นต่ำ 381.79 ล้านบาท แต่ทรัพย์ดังกล่าวกลับไม่ถูกประมูลออกไป

"นโยบายของบริษัทคือพยายามทำให้ราคาประมูลใกล้เคียงกับราคาตลาดคือ มีทรัพย์สินอยู่ 2 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าดัมพ์ราคาลงจะเกิดผลกระทบต่อตลาด จึงพยายามทำให้เหมาะสม มีการปรับปรุงและพัฒนาทรัพย์รายย่อย คนที่กำลังมองหาที่อยู่ก็จะได้ตามที่ต้องการ เพราะบริษัทเป็นรัฐวิสาหกิจทุกอย่างจะต้องมีความชัดเจน" นายนิยต กล่าว

สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้าขายทรัพย์สินให้ได้ 3,500 ล้านบาท ผ่านมาแล้ว 10 เดือนแรกทำได้แล้ว 3,000 ล้านบาท คาดว่าปี 2561 การขายทรัพย์จะอยู่ใกล้เคียงเดิมที่ 3,500 ล้านบาท โดยบริษัทจะจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องเพราะมีทรัพย์สินเข้ามาทุกวัน ทันทีที่ตั้งราคา

เสร็จก็จะประมูลออกขาย โดยในปีนี้ยังเหลือการประมูลอีก 2 ครั้ง ทั้งนี้ หลักการสำคัญของบริษัทจะประมูลก่อนให้ทุกรายมีโอกาสเท่ากัน ถ้าประมูลแล้วไม่มีใคร ซื้อ ครั้งต่อไปจะสามารถขายได้ในราคา เริ่มต้นการประมูลทันที ซึ่งใครที่สนใจเข้ามาซื้อทรัพย์รูปแบบขายตรงก็สามารถเลือกซื้อได้ทันทีเป็นราคาที่ไม่สามารถต่อรองได้ แต่ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม

ขณะเดียวกัน บริษัทมีนโยบายซื้อหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จากสถาบันการเงิน นำขายปีละประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท เป็นทรัพย์ประเภทที่อยู่ และธุรกิจเอสเอ็มอี โดยในปีนี้ได้มีการ ซื้อหนี้เข้ามา 4,000 ล้านบาท