posttoday

บิ๊กอสังหาฯขยายธุรกิจเช่า ดันรายได้โตรับตลาดบ้านชะลอ

24 พฤศจิกายน 2559

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่กลุ่มทุนใหญ่จากธุรกิจอื่นได้แตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจัง และไม่ได้เข้ามาลงทุนเฉพาะธุรกิจที่อยู่อาศัย แต่พร้อมที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ แบบครบวงจร

โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่กลุ่มทุนใหญ่จากธุรกิจอื่นได้แตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจัง และไม่ได้เข้ามาลงทุนเฉพาะธุรกิจที่อยู่อาศัย แต่พร้อมที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ แบบครบวงจร ทั้งที่อยู่อาศัยเพื่อขายและธุรกิจให้เช่า ทำให้เริ่มเห็นความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ที่อยู่ในภาคที่อยู่อาศัยเริ่มขยายการลงทุนไปยังอสังหาฯ ประเภทอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

ประกอบกับการที่ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยเองก็มีการแข่งขันสูงและเริ่มชะลอตัว หากผู้ประกอบการรายใหญ่ในภาคที่อยู่อาศัยต้องการการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ก็จำเป็นต้องแตกไลน์ไปยังธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่า หรือธุรกิจที่สร้างรายได้ระยะยาว เพื่อช่วยผลักดันการเติบโตให้องค์กรและยังเป็นฐานรายได้คงที่ต่อเนื่องระยะยาว

โมเดลในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่มีทั้งเพื่อขายและเพื่อเช่านั้น จะเห็นว่า กลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่ติดปีกขยายการลงทุนไปครบทุกประเภท แตกจากธุรกิจที่อยู่อาศัยไปยังโรงแรม อาคารสำนักงาน และค้าปลีก ทำให้แม้ว่ารายได้จากการขายที่อยู่อาศัยของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะขยายตัวไม่มาก แต่รายได้รวมทุกประเภทธุรกิจยังคงเติบโต โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและค้าปลีกที่ในช่วงหลายปีมานี้ได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวสูงมาก

ขณะที่กลุ่มพฤกษา เรียลเอสเตท ที่ปัจจุบันถือเป็นเบอร์หนึ่งของธุรกิจที่อยู่อาศัยทั้งในแง่ยอดขายและรายได้ ก็กำลังจะแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจที่สร้างรายได้ระยะยาวเช่นกัน เพื่อให้เดินหน้าถึงเป้าหมายรายได้แสนล้านบาทภายใน 5 ปี เช่นเดียวกับกลุ่มอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ที่ให้บริษัทลูก เอเอช-เอสพีวี 1 เช่าที่ดินกว่า 3 ไร่บนถนนรัชดาภิเษก ของบริษัท น้ำหนึ่งโฮม ระยะเวลา 30 ปี เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย พื้นที่ค้าปลีก ห้องพักอาศัย หรือโรงแรม มูลค่าลงทุนกว่า 2,605 ล้านบาท ซึ่งมีกระแสข่าวว่าจะพัฒนาร่วมกับกลุ่มมิตซุย ฟูโดซัง พันธมิตรจากญี่ปุ่น

“จะเห็นว่าผู้ประกอบการในภาคที่อยู่อาศัย ต้องลงทุนในอสังหาฯ ประเภทอื่น เพื่อสร้างการเติบโตใหม่ๆ และสร้างรายได้ระยะยาว เช่นเดียวกับการที่ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่ไปเช่าที่ดินราชพัสดุ 895 ไร่ ระยะเวลา 50 ปีต่อ 50 ปี เพื่อพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.ตราด ซึ่งจะทำให้พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีรายได้ค่าเช่าเข้ามาต่อเนื่องอย่างน้อย 50 ปี” ชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กล่าว

สำหรับแผนพัฒนาที่ดินราชพัสดุ ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.ตราด ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคจะแบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ 1.โซนพื้นที่สีเขียว เช่น แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สนับสนุนการท่องเที่ยวใน 52 เกาะใกล้้ จ.ตราด 2.โซนพาณิชยกรรม เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดสินค้าเกษตร ร้านค้าปลอดภาษี โรงพยาบาล 2.โซนพักผ่อนหย่อนใจ เช่น สวนสนุก โรงแรม 2 แห่ง และ 4.โซนอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เช่น เขตอุตสาหกรรมการเกษตรมูลค่าลงทุนประมาณ 5,200 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าเช่าที่ดินกรมธนารักษ์ 2,200 ล้านบาท และค่าก่อสร้างอีก 3,000 ล้านบาท

ในปี 2560 พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จะเริ่มทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าจะใช้เวลา 1 ปี และเริ่มเปิดให้เช่าที่ดินในปี 2561โดยพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จะหาผู้ร่วมทุน เริ่มต้นจากพันธมิตรในประเทศก่อน สัดส่วนการถือหุ้นเบื้องต้น พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 60% และพันธมิตร 40% คาดว่าจะได้ค่าเช่าเฉลี่ย 400-500 ล้านบาท/ปี

นี่เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของกลุ่มบิ๊กอสังหาฯ ภาคที่อยู่อาศัยที่กำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯ ครบวงจรในอนาคต