posttoday

เจาะกลยุทธ์ศุภาลัย รุกหนักตลาดภูธร

07 มีนาคม 2559

แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจะชะลอตัว แต่ค่ายศุภาลัยปีนี้ยังคงเดินหน้าบุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น

โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์

แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจะชะลอตัวมาก แต่ค่ายศุภาลัยปีนี้ยังคงเดินหน้าบุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นต่อเนื่อง พร้อมกับมองหาตลาดในจังหวัดใหม่ๆ ที่ประเมินแล้วว่ามีโอกาส เพราะมองแล้วว่าท่ามกลางตลาดที่ชะลอก็ยังมีที่อยู่อาศัยบางเซ็กเมนต์ที่ยังไปได้ โดยเฉพาะตลาดบ้านแนวราบที่มีความต้องการต่อเนื่อง

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย กล่าวว่า ตลาดบ้านแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและ ทาวน์เฮาส์ในต่างจังหวัดยังไปได้ แต่ตลาดคอนโดมิเนียมยังคงต้องใช้เวลา ซึ่งการที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เคยเข้าไปบุกตลาดคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดหลายจังหวัดชะลอการลงทุนตั้งแต่เห็นสัญญาณว่าตลาดเริ่มไม่ดี ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะไม่ทำให้ซัพพลายล้น ส่วนรายใหญ่อย่างทั้งศุภาลัย แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และควอลิตี้ เฮ้าส์ (คิวเฮ้าส์) ที่มีฐานตลาดต่างจังหวัดมานานและยังเดินหน้าต่อเนื่องได้ เพราะเน้นทำตลาดบ้านแนวราบเป็นหลัก

แผนการบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัด ปีนี้จะมีโครงการใหม่ด้วยกัน 14 โครงการใหม่ใน 10 จังหวัด คิดเป็นมูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท จากจำนวนโครงการเปิดตัวใหม่ทั้งหมดทั่วประเทศ 29-35 โครงการ โดยในจำนวนเปิดตัวโครงการใหม่ในต่างจังหวัดจะมี 1 โครงการเท่านั้นที่เป็นคอนโดมิเนียม ซึ่งอยู่ใน จ.ชลบุรี เพราะเป็นจังหวัดตลาดคอนโดมิเนียมยังสามารถไปได้ หากเจาะให้ถูกเซ็กเมนต์

“ตลาดคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดซบเซา เพราะความต้องการส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนและผู้เก็งกำไร เมื่อกลุ่มนี้หายไปก็จะเหลือแต่ผู้ซื้อที่มีความต้องการจริง ซึ่งชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ จะมีกลุ่มความต้องการที่อยู่อาศัยจริงจำนวนมาก จึงถือว่ายังมีโอกาส”

ทั้งนี้ การลุยเปิดตัวโครงการใหม่ในต่างจังหวัดจำนวนมากปีนี้ จะดันให้ยอดขายในต่างจังหวัดปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 22% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่อง โดยศุภาลัยทำตลาดต่างจังหวัดมาประมาณ 27 ปี แต่บุกหนักมากขึ้นในช่วง 8-10 ปีหลังมานี้ ปัจจุบันทำตลาดในต่างจังหวัดทั้งหมด 10 จังหวัด ครอบคลุมทั่วภูมิภาคทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ โดยปีนี้เตรียมเปิดจังหวัดใหม่ นครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่ 11 และอยู่ระหว่างศึกษาที่จะเปิดตลาดใหม่ในอนาคตอีก 2 จังหวัดในภาคเหนือและภาคกลาง

ไตรเตชะ กล่าวว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาตลาดต่างจังหวัดมีอัตราการเติบโตที่ดีมาก สะท้อนได้จากตัวเลขภาพรวมยอดขายทั้งหมดของศุภาลัยตลอด 8 ปี เติบโตเฉลี่ย 12% ต่อปี โดยตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑลเติบโตเฉลี่ย 9% ต่อปี แต่ตลาดต่างจังหวัดกลับเติบโตมากถึง 35% ต่อปี เช่นเดียวกับรายได้ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมทั้งหมดเติบโตเฉลี่ย 17% ต่อปี กรุงเทพฯ และปริมณฑล เติบโต 15% ส่วนตลาดต่างจังหวัด เติบโตมากถึง 32%

สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดที่ได้รับความนิยม จะแบ่งเป็นบ้านเดี่ยวระดับราคาประมาณ 4 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 1.8-1.9 ล้านบาท ส่วนคอนโดมิเนียมราคาไม่ต้องสูงมาก เพราะมีบ้านแนวราบเป็นทางเลือก หากราคาสูงมากจะขายยาก ยกเว้นโครงการนั้นๆ มีจุดเด่นของโครงการชัดเจน มากๆ จะยังมีโอกาส โดยจะเห็นว่าราคาที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดไม่ได้ถูกกว่าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะค่าก่อสร้างในต่างจังหวัดสูงกว่าประมาณ 5%

ด้านปัจจัยที่ทำให้ศุภาลัยประสบความสำเร็จในตลาดต่างจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการทำตลาดมานาน เรียนรู้จากพันธมิตรท้องถิ่น เน้นตลาดบ้านแนวราบเป็นหลัก และเลือกเข้าไปทำในจังหวัดที่มีเศรษฐกิจท้องถิ่นแข็งแรง ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยจากคนซื้อตัวจริง ไม่ใช่ผู้ซื้อที่เป็นกลุ่มเก็งกำไร โดยจังหวัดที่ยังไปได้และมียอดขายที่ดี ส่วนใหญ่จะเป็นจังหวัดที่มีทั้งเศรษฐกิจท้องถิ่นและภาคการท่องเที่ยว เช่น ชลบุรีและภูเก็ต ซึ่งปีที่แล้วดีมาก ส่วนสุราษฎร์ธานีปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากราคายางตกต่ำ จึงมียอดขายน้อยที่สุดในกลุ่มตลาดต่างจังหวัด

ไตรเตชะ กล่าวต่อว่า แม้ตลาดต่างจังหวัดปีนี้จะมีปัจจัยเรื่องภัยแล้ง ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำที่อาจจะกระทบกำลังซื้อของคนต่างจังหวัดบางส่วน แต่ก็ยังมีกลุ่มคนในภาคแรงงานต่างจังหวัดที่ยังมีรายได้ที่เติบโต และมีความต้องการที่อยู่อาศัย ซึ่งนี่ถือเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ยังทำให้บริษัทมั่นใจในการบุกตลาดต่างจังหวัด

ขณะที่ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศช่วง 4 เดือนแรกจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง เหลือ 0.01% ที่จะสิ้นสุดวันที่ 28 เม.ย.นี้ โดยในส่วนของศุภาลัยเองคาดว่ายอดขายไตรมาสแรกของปีนี้จะสูงถึง 5,000 ล้านบาท เติบโต 27% โดยเป็น การเติบโตจากบ้านแนวราบมาถึง 73% ส่วนคอนโดมิเนียมติดลบ เพราะไตรมาสนี้ไม่ได้เปิดโครงการใหม่

ปัจจัยดังกล่าวทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะทำยอดขายได้ 2.45 หมื่นล้านบาท และรายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้