บ้านแห่งความรักของครอบครัว เตชะสุขนิรันดร์

โดย...อณุสรา ทองอุไร ภาพ ภาณุทัต รัตนไพฑูรย์

สมชาย-จุฑาเพ็ญ เตชะสุขนิรันดร์ เจ้าของบริษัท สยามอินทิเกรเต็ดเทคโนโลยี บริษัทที่รับติดตั้งระบบไอทีให้กับองค์กรใหญ่ๆ หลายแห่ง มาเปิดบ้านย่านทุ่งครุ บนเนื้อที่ 2 ไร่กว่า ที่เพิ่งปลูกบ้านเสร็จเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งเป็นบ้านหลังที่ 2 ของเธอ ที่เพิ่งย้ายจากบ้านหลังแรกที่อยู่กลางเมืองแต่คับแคบขยายอะไรไม่ได้มีปัญหาเรื่องที่จอดรถ

“หลังนี้ซื้อที่เก็บไว้หลายปีแล้ว ค่อยมาปลูกบ้านเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ก็เก็บเงินกันมานานพอสมควร เนื่องจากมาปลูกตอนลูกโตเรียนมหาวิทยาลัยกันแล้ว ก็ปลูกเผื่อลูกมีครอบครัวเขาจะได้ไม่ต้องย้ายออกไปเตรียมพร้อมเรื่องนี้ไว้ให้ลูกเลย คือรองรับไปอีก 20-30 ปีข้างหน้าเลย” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

บ้านหลังนี้ออกแบบให้ดูทันสมัย เรียบโก้ โทนสีแนวเอิร์ธโทน คือ ครีม เทา เงิน มีไม้เป็นส่วนประกอบหลัก โดยมีหลักฮวงจุ้ยเข้ามาในการประกอบการตัดสินใจโดยทำธุรกิจด้านไอทีจึงควรออกแบบบ้านให้มีโทนสีที่เกื้อหนุนกับธุรกิจที่ทำอยู่ก็คือแนวที่เกี่ยวกับธาตุดินสีที่ขรึมๆ แนวเอิร์ธโทน

บ้านหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 800 ตารางเมตร บนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ อีก 1 ไร่ กันไว้สำหรับเป็นที่สวน ที่จอดรถ ตัวบ้านสองชั้น โดยชั้นล่างแบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์  พื้นที่รับแขก ห้องทานข้าว ห้องฝรั่ง ส่วนครัวไทยอยู่ด้านหลัง บนชั้น 2 นั้น มี 4 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพระ พื้นที่ส่วนกลางสำหรับเป็นห้องนั่งเล่น  และมีดาดฟ้า โล่งกว้างไว้สำหรับจัดงานเลี้ยง ไว้ดูดาวได้เหมาะดีมาก

 

เจ้าของบ้านบอกว่าชอบบ้านโล่งกว้าง จึงไม่มีของประดับอะไรที่เป็นของชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากนัก มีเพียงเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ที่จำเป็นต่อการใช้งาน พวกเก้าอี้โซฟาต่างๆ เลือกหนังแท้โทนสีเทา การตกแต่งภายในบ้านใช้ไม้แผ่นใหญ่สีน้ำตาลอ่อน ปูด้วยหินแกรนิตสีเทาควันบุหรี่ เพื่อให้ดูไม่สกปรกง่าย

“ห้องนอนแต่ละห้องตั้งใจออกแบบให้พอดีใช้ตามความจริง ไม่ใหญ่โตเกินไป เพื่อที่จะให้ทุกคนออกมาใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน เราไม่นิยมให้ลูกๆ หรือพ่อแม่เองขลุกอยู่แต่ในห้อง อยากให้ออกมาสังสรรค์คุยเล่น ดูทีวีด้วยกัน”

 

นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นบ้านของเจ้าของบริษัทไอที จึงไม่เสียชื่อเรื่องนี้ เธอวางระบบไว-ไฟ  ระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ ไว้อย่างครบวงจรเลยทีเดียว

ส่วนมุมโปรดที่ใช้บ่อยๆ ก็คือห้องนั่งเล่น มุมจิบกาแฟหน้าบ้าน แล้วก็มีมุมจากุซซี่ ตรงหลังบ้านที่เอาไว้แช่ตัวยามเหนื่อยล้า ความหมายของคำว่าบ้านของเธอก็คือเป็นความรักความอบอุ่นของทุกคนในครอบครัวอยู่กันแบบสบายๆ เป็นกันเอง เป็นตัวของตัวเองอยากนั่ง อยากนอน อยากคุย สามารถทำอะไรได้โดยอิสระ เป็นศูนย์รวมความรักของทุกคนในครอบครัว อยู่กันครบพ่อแม่ลูก ได้มีกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ร่วมกันอยู่พร้อมหน้ากัน

“บ้านใหญ่หรือบ้านเล็กไม่สำคัญเท่ากับบ้านที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้ากัน ได้กินข้าวด้วยกันนั่นล่ะสำคัญที่สุด” เธอกล่าวอย่างมีความสุข