"บ้านโซลาร์รูฟ" คึก
ปริญสิริ ทำโซลาร์รูฟ แตกบริษัทลูก “ปริญ เอนเนอร์จี” ดึงมิตซูบิชิฯ เป็นพันธมิตร
ปริญสิริ ทำโซลาร์รูฟ แตกบริษัทลูก “ปริญ เอนเนอร์จี” ดึงมิตซูบิชิฯ เป็นพันธมิตร
นายปริญญา โกวิทจินดาชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญ เอนเนอร์จี ในเครือปริญสิริ เปิดเผยว่า ได้ตั้งบริษัท ปริญ เอนเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทลูก เพื่อลงทุนในกลุ่มธุรกิจโซลาร์รูฟ หรือหลังคาผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร
ทั้งนี้บริษัทได้ดึงบริษัท มิตซูบิชิ อิเล็กทริค กันยงวัฒนา เข้าร่วมเป็นพันธมิตรด้านซัพพลายหลังคาโซลาร์ พร้อมกับชูโมเดลติดตั้งให้ลูกบ้านทั้งหมด ในลักษณะเช่าหลังคาของลูกบ้าน ประเดิมโครงการแรกซิกเนเจอร์ รามอินทรา ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท จำนวน 152 ยูนิต มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าได้เกือบ 1 เมกะวัตต์ คาดว่าจะผ่านการคัดเลือกจากการไฟฟ้านครหลวงสิ้นเดือน ก.ค.นี้ และจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในสิ้นปีนี้
สำหรับในโครงการแรก บริษัทได้กำหนดอัตราค่าเช่าหลังคาที่ต้องจ่ายให้เจ้าของบ้าน 50 บาท/ตารางวา (ตร.ว.) เป็นระยะเวลา 25 ปี พร้อมดูแลระบบหลังคา เพื่อให้ลูกบ้านนำรายได้ดังกล่าวมาจ่ายเป็นค่าส่วนกลาง ซึ่งเงินรายได้จะเข้านิติบุคคลทันที โดยค่าส่วนกลางของโครงการนี้ปัจจุบันอยู่ที่ 50 บาท/ตร.ว. ซึ่งในอนาคตหากนิติบุคคลหมู่บ้านมีมติปรับขึ้นค่าส่วนกลางตามภาวะต้นทุนในการบริหารโครงการต่างๆ ที่ปรับขึ้น ลูกบ้านจะจ่ายเพียงส่วนต่างที่เกินจาก 50 บาท/ตร.ว.เท่านั้น
นายปริญญา กล่าวว่า การใช้โมเดลลักษณะดังกล่าวจะทำให้ตลาดโซลาร์รูฟในหมู่บ้านจัดสรรเกิดได้จริงและยั่งยืน เพราะบริษัทเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง แต่จะไม่รวมกับราคาบ้าน ซึ่งบริษัทก็จะมีรายได้ส่วนต่างจากการขายไฟให้กับรัฐ หลังจากที่หักต้นทุนในการเช่าหลังคาจากลูกบ้านแล้ว โดยถ้าเป็นโครงการจัดสรรที่ลูกบ้านรับภาระในการติดตั้งเอง แม้จะมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้หน่วยงานรัฐได้ แต่ต้นทุนในการติดตั้งโซลาร์รูฟค่อนข้างสูง
จากการศึกษาข้อมูลพบว่า ปัจจุบันโครงการทาวน์เฮาส์ส่วนใหญ่มักประสบปัญหาเก็บเงินค่าส่วนกลางได้ไม่ครบ ทำให้โครงการไม่มีเงินมาดูแลสภาพแวดล้อมต่างๆ ในระยะยาว ซึ่งหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ จะขยายไปในทาวน์เฮาส์ทำเลอื่นๆ ด้วย
นอกจากนี้ การดึงโมเดลเช่าหลังคาติดตั้งโซลาร์รูฟ ยังสร้างความแตกต่างในการแข่งขันในตลาดทาวน์เฮาส์ซึ่งแข่งขันกันรุนแรงขึ้น ประกอบกับเทรนด์โซลาร์รูฟที่ผู้บริโภคเข้าใจมากขึ้น เพราะต้นทุนในการซื้อค่าไฟจากรัฐประมาณ 4 บาท/หน่วย แต่ขายไฟให้รัฐได้ 5.85 บาท/หน่วย ทำให้เจ้าของบ้านที่ติดโซลาร์รูฟเพื่อขายไฟให้รัฐมีโอกาสสร้างรายได้ จึงมั่นใจว่าโครงการนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี โดยโครงการนี้ได้เปิดขายตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ปัจจุบันมียอดขาย 30%