ทายาทม้าดาว บุกอสังหาฯเขาใหญ่

โดย...สุกัญญา สินถิรศักดิ์

ตั้งแต่ปลายปี 2556 ที่เกิดความวุ่นวายทางการเมือง “เขาใหญ่” เป็นหนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว หลายโครงการที่เตรียมเปิดตัวต่างชะลอแผนชั่วคราว แต่หลังการเมืองนิ่ง มีสัญญาณว่าผู้ประกอบการที่มีแผนจะพัฒนาโครงการที่เขาใหญ่เร่งปัดฝุ่นที่ดินและพร้อมเปิดตัวโครงการ เพราะช่วงเวลานี้ถือเป็นไฮซีซั่นของเขาใหญ่ที่คนนิยมไปท่องเที่ยว จึงเป็นจังหวะที่ดีในการกลับมาเปิดตัวโครงการบ้านหรูตากอากาศโซนเขาใหญ่อีกครั้ง

จิณิณ ตระการสืบกุล ทายาทของผู้ผลิตรองเท้าแตะ “ม้าดาว” และผู้อำนวยการบริหาร บริษัท ภูพบฟ้า หนึ่งในผู้ประกอบการที่มีแผนพัฒนาโครงการโซนเขาใหญ่ ภายใต้ชื่อ “เดอะ เครสตัน ฮิลล์” (The Creston Hills) ย่านถนนกุดคล้า ซึ่งห่างจากถนนธนะรัชต์ประมาณ 500 เมตร ก็พร้อมเปิดตัวโครงการดังกล่าวอย่างเป็นทางการ หลังจากชิมลางเปิดให้ผู้สนใจจองตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2557 ที่ผ่านมา

“นอกจากธุรกิจหลักของครอบครัวแล้ว โดยส่วนตัวชอบซื้อขายที่ดินทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จนมีโอกาสได้เจอที่ดินแปลงที่พัฒนาเป็นเดอะ เครสตัน ฮิลล์ รวมทั้งหมดก็ประมาณ 199 ไร่ ซึ่งเป็นของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) จึงตัดสินใจซื้อด้วยเงินสดมาตั้งแต่ปี 2553 หลังจากนั้นก็ใช้เวลาในการศึกษาตลาดและประเมินสถานการณ์หลายอย่าง จนเห็นว่ามีจังหวะที่ดี จึงพร้อมเปิดตัว” จิณิณ กล่าว

สำหรับแผนพัฒนาที่ดิน 199 ไร่ ประเดิมด้วยโครงการแรก “เดอะ เครสตัน ฮิลล์” บนพื้นที่ 99 ไร่ เป็นบ้านพักตากอากาศ จำนวน 57 หลัง แบ่งพัฒนาเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกมีจำนวน 25 หลัง และเฟสสอง มีจำนวน 32 หลัง เปิดขายในลักษณะที่ดินจัดสรร ราคาขายประมาณ 6.5-7.5 หมื่นบาท/ตารางวา พร้อมสัญญาให้ปลูกบ้านบนที่ดินดังกล่าว มีแบบบ้านสไตล์อเมริกันให้เลือก  4 แบบ พื้นที่ใช้สอย 600-800 ตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำทุกหลัง ระดับราคา 55-100 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายไปแล้วกว่า 30% ของทั้งหมด โดยคาดว่าเฟสแรกน่าจะปิดการขายได้ประมาณไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่าเฟส ที่สองจะปิดการขายได้ปีนี้

นอกจากนี้ ในโครงการดังกล่าวยังได้นำที่ดินประมาณ 31 ไร่ มาพัฒนาเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ เพื่อเป็นจุดขายสำคัญของโครงการ โดยคิดเป็นมูลค่าในส่วนของเดอะ เครสตัน ฮิลล์ และทะเลสาบประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนพื้นที่ ที่เหลืออีกเกือบ 70 ไร่ เบื้องต้นจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ความสูงไม่เกิน 3 ชั้นจำนวน 9 อาคาร รวมห้องชุดประมาณ 200 ยูนิต และพัฒนาเป็นทาวน์โฮมประมาณ 73 ยูนิต ซึ่งในส่วนนี้จะมีมูลค่าประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท และเมื่อรวมทั้งโครงการแล้ว คาดว่าจะมีมูลค่าการขายประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท

จิณิณ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบ้านพักตากอากาศในเขาใหญ่ยังมีความต้องการต่อเนื่อง เพราะกลุ่มคนมีกำลังซื้อสูงในไทยยังมีอีกจำนวนมาก และมีไม่น้อยที่เชื่อว่ายังไม่มีบ้านพักตากอากาศที่เขาใหญ่ โดยเขาใหญ่เป็นเมืองพักตากอากาศที่มีอากาศใกล้เคียงกับจังหวัดทางภาคเหนือ แต่ใกล้กับกรุงเทพฯ มากกว่า จึงเป็นจุดแข็งที่จะทำให้ตลาดบ้านพักตากอากาศในเขาใหญ่เติบโต ต่อเนื่องโดยเขาใหญ่เคยบูมมากๆ ในช่วงอดีต และชะลอตัวไปเพราะหลายปัจจัยทั้งเศรษฐกิจ การเมือง หรือความนิยมในเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ

แต่ประเมินว่าเขาใหญ่กำลังจะกลับมาบูม อีกครั้ง จากทั้งการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อากาศที่ดี และพื้นฐานทางเศรษฐกิจของท้องถิ่น ที่แข็งแรงมากขึ้น จะทำให้การกลับมารอบนี้ของเขาใหญ่ ไม่บูมตามกระแสความนิยม แต่ขยายตัวตามความต้องการจริง ซึ่งสะท้อนได้จากราคา ที่ดินที่ยังขยับขึ้นต่อเนื่อง ส่วนแผนการลงทุนของบริษัทในอนาคต จะขอประเมินผลตอบรับจากโครงการดังกล่าวก่อน

นี่เป็นเพียงหนึ่งในโครงการที่พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเขาใหญ่ ฟันธงได้เลยว่า นับจากนี้ยังมีอีกหลายโครงการที่่จ่อคิวปัดฝุ่นเขาใหญ่ให้กลับมาคึกคักรอบใหม่