posttoday

"ลลิล" ชี้ปัจจัยลบยังรุมเร้าอสังหาฯ

20 มกราคม 2558

ลลิลฯ ประเมินเศรษฐกิจปีนี้ปัจจัยเสี่ยงยังเพียบ แต่ยังหวังโต 12% ตั้งเป้าเปิด 8-10 โครงการ 4,000 ล้าน

ลลิลฯ ประเมินเศรษฐกิจปีนี้ปัจจัยเสี่ยงยังเพียบ แต่ยังหวังโต 12% ตั้งเป้าเปิด 8-10 โครงการ 4,000 ล้าน

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังต้องเผชิญปัจจัยลบที่มาจากเศรษฐกิจโลก เนื่องจากยังมีความน่ากังวลใจหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่สหรัฐและยุโรปรวมตัวกันเพื่อบีบให้รัสเซียลงราคาน้ำมัน ขณะที่จีนพยายามผนวกค่าเงินหยวนกับรูเบิล รัสเซีย เข้าด้วยกัน  การยกเลิกคิวอีของสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการถอนเงินลงทุนไปยังสหรัฐ ทำให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยจะปรับขึ้นในครึ่งปีหลัง รวมไปถึงการที่เงินฟรังก์สวิสได้ถอนออกจากสหภาพยุโรป ทำให้ค่าเงินฟรังก์สวิสขยับขึ้นสูง 20% เป็นปัญหาใหญ่ในเวลานี้

“ปัจจัยลบที่มารุมเร้าเวลานี้ การที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ การเมืองไทยจะต้องนิ่ง ไม่เกิดปัญหาในประเทศ ซึ่งจะมาซ้ำเติมกันเอง ขณะเดียวกันรัฐบาลควรจะต้องเร่งผลักดันให้โครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่เกิดขึ้นใหม่โดยเร็ว เพื่อจะกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศให้เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยต้องพึ่งพิงการส่งออกต่างประเทศสูงถึง 70%”นายไชยยันต์ กล่าว

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียอย่างอินเดียและอาเซียนถือว่ายังดี ตัวเลขจีดีพีเศรษฐกิจปรับตัวอยู่ในระดับสูง ขณะที่ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 3-5% โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายปีนี้ เติบโตจากปีก่อน 12% มียอดขาย 3,120 ล้านบาท และรับรู้รายได้ 2,650 ล้านบาท จากปี 2557 ที่มียอดขาย 2,800 ล้านบาท ส่วนปี 2556 มียอดขาย 3,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริิษัทจะบริหารงานด้วยการวางแผนกระจายความเสี่ยงไว้ล่วงหน้า 2-3 ปี ไม่เน้นเปิดโครงการจำนวนมาก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัด โดยจะเปิดโครงการใหม่ 8-10 โครงการ ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมโรว์ไรส์ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท และขยายฐานลูกค้ากลุ่มแนวราบในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้งในส่วนจังหวัดหัวเมืองหลักและหัวเมืองรอง โดยยังคงเน้นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ และใช้งบซื้อที่ดินจำนวน 800-900 ล้านบาท

ทางด้านราคาบ้านใหม่ในปีนี้เชื่อว่าจะขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5% เนื่องจากได้ปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมาก แต่ยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน  รวมไปถึงราคาที่ดินปรับตัว สูงมาก โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า