เผาเมืองไม่กระทบคอนโดขายเกลี้ยง

ม็อบแดงเผาเมืองไม่สะเทือน  ค่ายอสังหาฯ กางแผน ลงทุนต่อ  ยูนิเวนเจอร์  ระบุคอนโดขายเกลี้ยง  เตรียมผุดโครงการใหม่อีก 2-3 แห่ง มูลค่า 3,000 ล้านบาท  ด้าน เมเจอร์ แตกบริษัท ลูก พัฒนาคอนโดหรู

ธนพล ศิริธนชัย

นายธนพล ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์  เปิดเผยว่าในครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ อีก 2-3 แห่ง ราคา 1.5-2 ล้านบาท ต่อยูนิต  คิดเป็นมูลค่าโครงการรวม   3,000 ล้านบาท โดยได้ตั้งงบซื้อที่ดินไว้  400 ล้านบาท  โดยโครงการที่พัฒนาอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหรือเอ็มอาร์ทีประมาณ 1-1.5  กม.เนื่องจากการพัฒนาโครงการ ในรูปแบบดังกล่าวที่ผ่านมาตลาดให้การตอบรับที่ดี  

ปัจจุบันโครงการยู สบาย แอท พระราม 4  ก่อสร้างแล้วเสร็จมียอดขาย 100%   โครงการยู ดีไลท์ แอท บางซื่อมียอดขาย 100%  ลูกค้าโอนแล้ว  95%    โครงการยู ดีไลท์ แอท ห้วยขวาง  มียอดขายแล้ว 75% ขณะนี้อยู่ระหว่างเริ่มการก่อสร้าง และโครงการยู ดีไลท์  แอท  จตุจักร  คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) สิ้นเดือนนี้  จึงจะเริ่มก่อสร้างได้ ขณะนี้มียอดขายแล้ว 100% 

“ความต้องการคอนโดฯระดับราคา ไม่เกิน 2 ล้านบาท ใกล้กับแนวรถไฟฟ้ายังมีอยู่สูง โครงการเปิดขึ้นหลายแห่ง ก็สามารถขายหมดในเวลารวดเร็ว”  นายธนพลกล่าว

สำหรับ ปาร์คเวนเชอร์  ดิ อีโคเพล็กซ์  ซึ่งเป็นโครงการอาคารสำนักงานและโรงแรมระดับ 5 ดาว ย่านเพลินจิต-วิทยุ แม้ว่าจะตั้งอยู่ในเขตที่มีการประท้วง  ปัจจุบันก่อสร้างได้ถึง ชั้น 9  คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนก.ย.ปี 2554  ซึ่งยังเป็นไปตามแผน โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ในระยะยาวให้กับบริษัทปีละไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท   

ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายด้านอสังหาฯ ซึ่ง ไม่รวมธุรกิจสังกะสีออกไซด์ไว้   2,670  ล้านบาท  และมียอดรับรู้รายได้ 1,136 ล้านบาท  จากปี  2552  มียอดขาย 1,600 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้   342  ล้านบาท    ส่วนปีหน้าตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า  3,000 ล้านบาท         

ด้านนายสุริยน พูลวรลักษณ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์    เปิดเผยว่า หลังจากเหตุการณ์ความรุนแรงจากปัจจัยการเมืองได้คลี่คลายลงไป บริษัทฯ ได้เตรียมแผนลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมระดับบนเพิ่มขึ้นอีก 1 โครงการ  จากเดิมที่จะลงทุนพัฒนาโครงการใหม่  2-3 โครงการ

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท เมเจอร์ เรียลตี้ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท  ซึ่งเป็นบริษัทลูกเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ดังกล่าว ให้เป็นคอนโดฯ ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ราคาขาย ตร.ม.ละ  1.5 แสนบาท ในทำเลย่านทองหล่อ  ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียดของโครงการ และจะเปิดตัวได้ภายในครึ่งปีหลังของปีนี้

ขณะที่ทิศทางตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนในปีนี้ เชื่อว่ายังมีทิศทางการเติบโตที่ดี โดยพฤติกรรมการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมของลูกค้ายังให้ความสนใจกับโครงการที่อยู่ในกลางเมือง ที่ใกล้กับรถไฟฟ้า และรถใต้ดินเช่นเดิม แม้ที่ผ่านมามีการคาดการณ์ว่าพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองจะเปลี่ยนไปจากเหตุการณ์ความรุนแรงจากปัจจัยทางการเมืองที่เกิดขึ้นก็ตาม 

นายสุริยน กล่าวยอมรับว่า ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้ลูกค้าต่างชาติบางส่วนที่ไม่เข้าใจสถานการณ์และมีความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้าง แต่หากภาครัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างชาติได้ด้วยการเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจ็คท์  เพื่อแสดงสัญญาณถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย ก็เชื่อว่า ชาวต่างชาติจะให้ความสนใจในการเข้ามาซื้อโครงการที่อยู่อาศัยในไทยมากขึ้น