posttoday

เพซฯ โชว์ต่างชาติซื้อคอนโดหรู200ล.

24 มิถุนายน 2557

เพซฯ ระบุหลังเกิดรัฐประหารคอนโดหรูกำลังซื้อฟื้น ต่างชาติซื้อ 3 ยูนิตกว่า 200 ล้านบาท คาดสิ้นปีนี้กวาดรายได้ 300 ล้านบาท มั่นใจปีหน้ารายได้แตะ 1,000 ล้านบาท

เพซฯ ระบุหลังเกิดรัฐประหารคอนโดหรูกำลังซื้อฟื้น ต่างชาติซื้อ 3 ยูนิตกว่า 200 ล้านบาท คาดสิ้นปีนี้กวาดรายได้ 300 ล้านบาท มั่นใจปีหน้ารายได้แตะ 1,000 ล้านบาท

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่าหลังเกิดรัฐประหารในเมืองไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาแต่กำลังซื้อลูกค้าชาวต่างชาติยังมีเข้ามา โดยสามารถขายโครงการมหานคร อีกจำนวน 3 ยูนิต ได้แก่ห้องชุดระดับราคา 91 ล้านบาท และราคา 55 ล้านบาท และ 60 ล้านบาท รวมมูลค่า 206 ล้านบาท ให้กับนักธุรกิจชาวต่างชาติจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา

“โครงการมหานคร ได้ปรับราคาขายขึ้นมา 20% ซึ่งขยับขึ้นตามความสูงแต่ละชั้น จากเดิม 2-3 แสนบาทต่อตารางเมตร ขยับขึ้นเป็น 2.5 แสนบาทถึง 4 แสนบาทต่อตารางเมตร โดยปัจจุบันมีราคาขายเฉลี่ย 3 แสนบาทต่อตารางเมตร นอกจากนี้มีเรื่องการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากเดิมเป็นสัญญาเช่ามาเป็นฟรีโฮลด์” นายสรพจน์กล่าว

สำหรับในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารับรู้รายได้ไว้ 300 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากรายได้จากการเช่าอาคารคิวบ์ ไลฟ์สไตล์ รีเทล เซ็นเตอร์  7 ชั้น  ในโครงการมหานคร ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนต.ค.นี้ เฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านบาท รวมถึงการโอนโครงการเก่าที่เหลืออยู่ราว 200 ล้านบาท ทั้งโครงการศาลาแดง เรสซิเดนเซส และโครงการไฟคัส เลน สุขุมวิท 44

ขณะที่ปี 2558 คาดรายได้จะเติบโตก้าวกระโดดขึ้นไปแตะหลักพันล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทพลิกกลับมามีกำไร โดยจะเป็นการเริ่มรับรู้รายได้จากค่าสมาชิกสโมสรในโครงการมหาสมุทรตั้งแต่กลางปี 58 ซึ่งมีมูลค่าโครงการถึง 2 พันล้านบาท รวมถึงการขายโซนที่พักอาศัย มูลค่าโครงการราว 3,200 ล้านบาท โดยจะเริ่มเปิดขายในช่วง ส.ค.-ก.ย. 57 นี้  และโครงการมหานครที่จะเริ่มโอนได้ในช่วงปลายปี 58 จากที่ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท หรือ 60%

"ในปีนี้รายได้ของเราคงจะยังไม่มาก เพราะโครงการใหญ่ๆของเรายังไม่สามารถโอนได้ ซึ่งโครงการต่างๆนั้นยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการขายอยู่ทำให้ปีนี้เราก็ยังจะขาดทุน แต่ปีหน้าเราจะกลับมามีกำไรได้เพราะเราจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่กลางปี ทั้งในโครงการ มหาสมุทร และมหานคร"นายสรพจน์กล่าว

ทางด้านโครงการคอนโดมิเนียม ซอยหลังสวน บริษัทคาดว่าจะเริ่มเปิดขายได้ในช่วงปลายปี 57-ต้นปี 58 มูลค่าโครงการราว 6,000 ล้านบาทโดยช่วงเวลาที่เปิดขายจะพิจารณาความเหมาะสมของสถานการณ์ทั้งทางด้านการเมือง รวมถึงเศรษฐกิจ ทั้งนี้บริษัทฯมีแผนนำ โครงการ คิวบ์ฯ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ขายเป็นสินทรัพย์ของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)นั้น ยังคงเดินหน้าไปตามแผนงานที่อยู่ระหว่างรอความชัดเจนเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่างๆ ของทางการ คาดว่าในช่วงปลายปีนี้น่าจะเห็นความชัดเจน นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้อีก 1,500 ล้านบาทในปลายปีนี้ถึงช่วงต้นปี 58 ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และความจำเป็นของบริษัท