คอนโดมิเนียมมีคาแรกเตอร์ ของ ณพงศ์ ปานทอง

โดย...วราภรณ์ ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน

นอกจาก ณพงศ์ ปานทอง Head of Marketing ประจำเว็บไซต์ ddproperty.com เว็บไซต์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของเมืองไทย ที่ทำการตลาดขยายฐานลูกค้าให้เว็บไซต์อย่างพุ่งไปให้ตรงกลุ่มเป้าหมายแล้ว เรื่องการเลือกที่พักอาศัยเขาก็ใส่ใจพิถีพิถันในการเลือกโลเกชั่นและเฟ้นหาสไตล์การตกแต่งอีกด้วย ดังเช่น คอนโดมิเนียมหรูย่านถนนเส้นเศรษฐกิจของไทย บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินก็เป็นทำเลที่ณพงศ์เลือกซื้อคอนโดมีเนียมอยู่สักห้องหนึ่ง พื้นที่เพียง 83 ตารางเมตร แต่ละมุมของห้องจัดวางอย่างดีทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากพอควร โดยเฉพาะส่วนกลางของห้อง เช่น ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว มีพื้นที่เพียงพอไว้จัดปาร์ตี้ได้อย่างสบายๆ ที่โดดเด่นสุดๆ คือ การตกแต่งที่ลงตัวสไตล์ “โมเดิร์น วินเทจ” ที่หากตัดสินใจไม่อยู่เองก็ให้เช่าได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทั้งไทยและเทศสามารถเข้ามาอยู่อาศัยได้อย่างไม่เคอะเขิน ด้วยทั้งโทนสี ขาว ดำ และเทา ส่วนเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นก็วินเทจ บางชิ้นก็โมเดิร์นซึ่งเจ้าของห้องเฟ้นหาเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นด้วยตัวเองอย่างพิถีพิถัน ทำให้ห้องนี้กว่าจะแต่งเสร็จเรียบร้อยต้องใช้เวลานานถึงครึ่งปีทีเดียว ห้องนี้นอกจากซื้ออยู่เองแล้ว ยังซื้อไว้เผื่อขายหรือให้เช่าในวันข้างหน้าอีกด้วย

 

ณพงศ์ เปิดฉากเล่าว่า เดิมทีเขาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ย่านอุรุพงษ์ แต่หากอยากอยู่เป็นส่วนตัวก็จะแยกออกมาอยู่คอนโดมิเนียมแห่งนี้อาทิตย์ละ 2 วัน หากถามถึงสไตล์ตกแต่ง ห้องนี้มีคาแรกเตอร์ผู้ชายนิดๆ ออกมาในสไตล์ “โมเดิร์น วินเทจ” เพราะหากเลือกสไตล์ใดสไตล์หนึ่งอยู่ไปนานๆ จะเบื่อเร็ว โดยไอเดียตกแต่งและเลือกเฟอร์นิเจอร์ออกมาจากตัวตนแท้ๆ ของณพงศ์ทั้งหมด สะท้อนความเป็นผู้ชายเรียบง่าย และรักงานศิลปะ

 

“ผมนำความคลาสสิกมาตัดกับวินเทจ ดูอย่างห้องครัวสไตล์โมเดิร์นใส่หินอ่อน สีฝาผนังทาสีเทา แต่ห้องรับแขกจะออกแนววินเทจ แต่ตู้ยังโมเดิร์น เรียกว่าผมตั้งใจเปิดหนังสือแต่งห้องเลยทีเดียว บางคนชอบตู้บิลต์อิน แต่ผมใช้ซื้อของทีละชิ้น อย่างโต๊ะกินข้าวสั่งทำพิเศษเป็นโต๊ะหินอ่อนหนักและแข็งมาก แต่โต๊ะกินข้าวออกแบบให้ประหยัดพื้นที่คือ ผอมและยาวเป็นพิเศษ หรืออย่างตู้วางทีวีก็ผอมและสูงพิเศษ เพื่อประหยัดพื้นที่” โจทย์ของคอนโดมิเนียมคือ มีพื้นที่ที่จำกัด เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นจึงต้องสั่งทำเอง แต่อีกหลายชิ้นอย่างเก้าอี้หลากสไตล์ในห้องกินข้าวก็ใช้วิธีประมูลมา

 

สำหรับฟังก์ชั่นของห้อง เปิดเข้ามาจะพบกับห้องครัว ห้องกินข้าว และห้องรับแขก ถัดไปด้านในเป็นห้องนอนแขกและห้องนอนส่วนตัวของเจ้าของบ้าน แต่ห้องนอนเล็กปัจจุบันปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน สังเกตห้องนี้ดีๆ จะให้โทนสี ได้แก่ ดำและขาวเพื่อใส่ความเก๋ลงไป เคาน์เตอร์ก็ติดประดับไฟในห้องครัวเพื่อให้ดูเป็น 2 โซนระหว่างห้องครัวกับห้องกินข้าวและห้องนั่งเล่น

 

ส่วนห้องกินข้าวเน้นความโรแมนติก ตอนกลางคืนสามารถปรับไฟให้อ่อนเบาลงได้

“ผมตั้งใจตกแต่งห้องรับแขกให้ออกมาสไตล์โมเดิร์นผสมวินเทจ โดยเก้าอี้เลือกเป็นโซฟาหนัง ซึ่งผมชอบมากๆ เพราะผมตัวยาวสามารถนอนยาวได้ เวลานั่งดูทีวีก็เข้ามุมพอดี หีบผมนำมาตั้งเป็นโต๊ะกลางห้อง สามารถเก็บของได้เยอะมาก ส่วนห้องนอนผมตกแต่งคลาสสิกวินเทจโทนสีเทามืดๆ ดำๆ เพื่อให้ห้องนอนดูเซ็กซี่ มีตู้เก็บเสื้อผ้าแบ่งเป็นสัดส่วน ส่วนห้องนอนเล็กคล้ายๆ ห้องใหญ่ เช่น หัวเตียงเป็นหินอ่อนเพื่อให้ดูมีลูกเล่น คือผมเล่นกับตัววัสดุ ลายหินอ่อนสวยงาม คือผมไม่อยากออกแบบให้เตียงมีหัวเตียงเพื่อประหยัดที่ ผมจึงสั่งทำหมด เพื่อพื้นที่ปลายเตียงจะได้มีเยอะๆ”

ที่ห้องส่วนตัวนี้ ยังสะท้อนตัวตนของหนุ่มอารมณ์ศิลป์ คือ ในฐานะที่เขาชอบท่องเที่ยวและชอบถ่ายภาพที่สองห้องนอนนี้จึงมีภาพถ่ายขาวดำฝีมือเขาตกแต่งอยู่ด้วย ยิ่งเพิ่มมนต์เสน่ห์ให้เข้ากับห้องโทนสีคลาสสิกมากขึ้น