หวั่นราคาที่ดินร่วงหลังเลิกโครงการ2ล้านล้าน

ภาคอสังหาฯกุมขมับแผน 2 ล้านล้านล่ม ทำราคาที่ดินตกฮวบ นักเก็งกำไรที่ดินติดดอย

นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ. ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อกฎหมาย ส่งผลกระทบทำให้ที่ดินในจังหวัดทำเลตามแนวโครงการรถไฟความเร็วสูงราคาลดลงแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้มีการเก็งกำไรราคาที่ดินสูงขึ้นไป 2-3 เท่าจากราคาปกติจากนักเก็งกำไรที่ดิน ไม่ใช่ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่านักเก็งกำไรเหล่านี้อยู่ในภาวะติดดอยเหมือนกับการติดดอยในการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งจะต้องรอความชัดเจนว่าจะมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเกิดขึ้นหรือไม่ หรือจะมีการนำที่ดินไปพัฒนาเป็นรูปแบบใด

นอกจากนี้ พบว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะย้ายทำเลพัฒนาโครงการ จากเดิมจะไปต่างจังหวัด ก็จะกลับมาพัฒนาพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลมากขึ้น โดยเฉพาะรอบสถานีรถไฟฟ้าที่จะมีการเปิดใช้ในปี 2559-2560 เบื้องต้นเห็นได้จากการพัฒนาห้างสรรพสินค้าและห้างชุมชนตามแนวรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ราคาที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองคงไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่โครงการ 2 ล้านล้านบาทชะงัก

ด้านนายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ราคาที่ดินตามแนวโครงการรถไฟความเร็วสูงในต่างจังหวัดอาจปรับตัวลดลงอย่างน้อย 50% เพราะก่อนหน้านี้ราคาที่ดินขึ้นไปกว่าเท่าตัว และมีผลทำให้คอนโดมิเนียมที่อยู่ในต่างจังหวัดเกิดภาวะล้นตลาด ขายยากขึ้น ส่วนผู้ประกอบการที่มีแผนจะพัฒนาพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อรองรับโครงการ 2 ล้านล้านบาท จะต้องชะลอการลงทุนออกไปจนกว่าจะมีความชัดเจน อย่างไรก็ตาม ถือเป็นโอกาสดีของผู้ซื้อที่จะซื้อคอนโดมิเนียมและที่อยู่อาศัยในภูมิภาคในราคาถูกลง

นายปราโมทย์ ยามาลี รองอธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า จะให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ประเมินราคาที่ดินในต่างจังหวัดใหม่ หลังจากโครงการ 2 ล้านล้านต้องหยุดชะงักไป เพราะก่อนหน้านี้ราคาที่ดินตามแนวรถไฟความเร็วสูงปรับขึ้นไปค่อนข้างมาก ดังนั้น ราคาที่ดินจะต้องปรับลดลงมาอย่างแน่นอน ส่วนผลกระทบต่อบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้น  เชื่อว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ได้มีการพัฒนาที่ดินเพราะรอความชัดเจน คงมีผลกระทบไม่มาก