posttoday

บ้านแห่งความอบอุ่นของครอบครัว

23 กุมภาพันธ์ 2557

เมื่อแรกที่ได้ยินชื่อของ “ศักดิ์สิทธิ์ อัลลอย” ซึ่งเป็นธุรกิจติดตั้งประตูอัลลอยชื่อดังที่มีมากว่า 30 ปี

โดย...อาร์ต ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุล

เมื่อแรกที่ได้ยินชื่อของ “ศักดิ์สิทธิ์ อัลลอย” ซึ่งเป็นธุรกิจติดตั้งประตูอัลลอยชื่อดังที่มีมากว่า 30 ปี ก็เข้าใจว่าเป็นชื่อของคุณพ่อ (ณัฏฐ์ดนัย ภูเบศอรรถวิชญ์) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจนี้ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะชื่อนี้มีที่มาจากชื่อลูกชายคนโตของครอบครัว หนึ่งศักดิ์สิทธิ์ ภูเบศอรรถวิชญ์ หนุ่มหน้าตาดีวัย 33 ปี ผู้รับหน้าที่ Managing Director ของบริษัท ซึ่งถือเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง

บ้านแห่งความอบอุ่นของครอบครัว

 

บ้านของหนึ่งเป็นบ้านเดี่ยวหลังงามตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นบนเนื้อที่ 82 ตร.ว. ของหมู่บ้านไชโย ซอยแบริ่ง 39 ที่ครอบครัวเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้แค่ 1 ปี เนื้อที่ของบ้านไม่มากไม่น้อยเกินไปสำหรับสมาชิกของบ้านที่มีด้วยกัน 5 คน คือ คุณพ่อ คุณแม่ คุณหนึ่ง น้องชาย และน้องสาว สิ่งสำคัญคือความเงียบสงบไม่วุ่นวาย จึงเหมาะเป็นที่พักผ่อนของคนในครอบครัวที่สุด

บ้านแห่งความอบอุ่นของครอบครัว

 

“สไตล์การตกแต่งบ้านนี้ไม่ได้มีคอนเซปต์ที่ชัดเจนมากนัก คือจะตกแต่งตามรูปแบบโครงสร้างของบ้านเป็นหลัก สิ่งใดที่เหมาะสมและเป็นความชอบของคนในบ้านก็จะเอามาจัดไว้เป็นมุมๆ ไป จะเห็นว่าบางมุมจะมีรูปปั้นและแจกันจีน บางมุมก็มีไม้แกะสลัก ฉากไม้ ตู้ไม้แบบไทยๆ บางมุมมีเครื่องทองเหลืองรมดำสวยงามจากอิหร่าน ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นงานศิลปะที่สมาชิกในบ้านซื้อเก็บสะสมไว้ ดังนั้นสไตล์การตกแต่งบ้านจึงเป็นการผสมผสานที่ลงตัว เน้นการอยู่ง่าย สบายตา และตอบโจทย์ให้กับทุกคนในบ้านได้” เจ้าของบ้านวัยหนุ่มบอกเล่าอย่างอารมณ์ดี

บ้านแห่งความอบอุ่นของครอบครัว

 

เมื่อเดินชมโดยรอบจะเห็นว่าภายในบ้านเน้นการใช้โทนสีอ่อนอย่างสีเหลืองครีม ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น โปร่ง โล่ง สบายเป็นหลัก ยิ่งเมื่อตัดกับสีเข้มของประตูไม้ ตู้ไม้ รูปแกะสลักไม้ รวมถึงราวบันไดลายไม้ ประติมากรรมรูปสลักต้นไม้และใบไม้ประดับผนังซึ่งทำจากอัลลอยด้วยแล้ว จะเห็นถึงการผสมผสานความอบอุ่นอ่อนโยนของสีเข้ากับความแข็งแรงสวยงามของลวดลายวัสดุอัลลอยได้อย่างลงตัวพอดี

บ้านแห่งความอบอุ่นของครอบครัว

“โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าถึงเราจะสร้างบ้านใหม่ให้ใหญ่โตมโหฬาร ราคา 20-30 ล้านบาท มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบถ้วนสักเพียงใด แต่ถ้าคนในครอบครัวไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน กลับเข้ามาในบ้านแล้วไม่เจอใครเลย ก็เท่ากับว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านที่ไม่มีชีวิตชีวา ทุกคนในบ้านจึงเห็นตรงกันว่า งั้นเราเอาบ้านที่มีพื้นที่การใช้งานพอดีๆ แต่คนในบ้านได้เจอหน้ากันทุกวัน ได้พักผ่อนด้วยกัน บ้านหลังนี้ก็จะเป็นเสมือนศูนย์รวมความสุข ความอบอุ่นของทุกคนในครอบครัวได้อย่างดีแล้วล่ะ”

บ้านแห่งความอบอุ่นของครอบครัว

 

และเมื่อถามถึงมุมโปรด ชายหนุ่มบอกว่า “มุมโปรดของผมมีสองส่วนครับ ถ้าวันไหนอยากนั่งดูหนังเพื่อผ่อนคลายก็จะเป็นมุมตรงห้องรับแขก ที่บางครั้งก็จะมีน้องๆ และคุณแม่มานั่งดูหนังด้วยกัน ส่วนอีกมุมจะเป็นมุมซุ้มศาลาที่สวนข้างบ้าน ซึ่งผมมักจะมานั่งเล่นตอนค่ำๆ หลังกลับจากทำงานเหนื่อยๆ หรือเครียดจากรถติด ผมจะมานั่งสูดอากาศ ดื่มด่ำกับธรรมชาติ นั่งฟังเสียงน้ำไหล เสียงนกร้อง เพื่อปลดปล่อยความคิดและทบทวนเรื่องราวในแต่ละวันด้วยอารมณ์สบายๆไปเรื่อยๆ ครับ”

บ้านแห่งความอบอุ่นของครอบครัว

 

ถึงแม้คำว่าบ้านจะมีความหมายว่าเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัย 4 ที่คนเราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ แต่นิยามคำว่าบ้านแสนสุขสำหรับชายหนุ่มอนาคตไกลผู้นี้ ไม่ได้อยู่ที่ความใหญ่โตสวยงามหรือมูลค่าของบ้านหลังนั้น แต่ขึ้นอยู่กับความรัก ความผูกพัน และความอบอุ่นของคนในบ้านต่างหากล่ะ

บ้านแห่งความอบอุ่นของครอบครัว

 

บ้านแห่งความอบอุ่นของครอบครัว