posttoday

ชาญอิสสระลุยคอนโดริมน้ำเชียงใหม่

20 ตุลาคม 2556

ชาญอิสสระสบช่องคนเชียงใหม่กำลังซื้อเพิ่ม ผุดคอนโดหรูรับความต้องการ มั่นใจตลาดยังไปได้

ชาญอิสสระสบช่องคนเชียงใหม่กำลังซื้อเพิ่ม ผุดคอนโดหรูรับความต้องการ มั่นใจตลาดยังไปได้

นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ เปิดเผยว่า แนวโน้มกำลังซื้อของคนใน จ.เชียงใหม่ เพิ่มสูงขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในเชียงใหม่มีความคึกคักต่อเนื่องมาหลายปี ส่งผลให้กลุ่มคนที่มีรายได้สูงในเชียงใหม่เริ่มหันมาซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น

จากการสำรวจตลาดความต้องการที่อยู่อาศัยในเชียงใหม่ในปีนี้ พบว่า กลุ่มผู้มีรายได้ 3-7 หมื่นบาทต่อเดือน มีสัดส่วนในการขอกู้สินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 23% ส่วนกลุ่มผู้มีรายได้ 1-2.5 แสนบาทต่อเดือน มีสัดส่วนในการขอกู้สินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 25% สะท้อนให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้มีความต้องการที่อยู่อาศัยมากขึ้น

สำหรับปัจจัยดังกล่าวมีส่วนทำให้บริษัทตัดสินใจบุกตลาดคอนโดมิเนียมในเชียงใหม่เป็นครั้งแรก หลังจากศึกษาตลาดมานานแล้ว โดยปัจจุบันมั่นใจว่าพฤติกรรมความต้องการของคนเชียงใหม่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูงจะนิยมซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรร หรือยอมรับการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมมากขึ้น

ทั้งนี้ โครงการ “ดิ อิสสระ เชียงใหม่” เป็นคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำความสูง 7 ชั้น จำนวน 4 อาคาร ขนาด 35-70 ตารางเมตร ราคา 1.89-4.49 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 1,800 ล้านบาท ปัจจุบันแต่งตั้งให้บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เป็นที่ปรึกษาและบริหารงานขาย

ด้านแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เช่น หัวหิน เชียงใหม่ ภูเก็ต เชื่อว่ายังเติบโตไปได้ แต่บางจังหวัด เช่น พัทยา แม้จะมีเศรษฐกิจที่ดี แต่อุปทานค่อนข้างมาก ส่วนแผนเปิดตัวโครงการใหม่ปีหน้าจะมีโครงการที่ภูเก็ต 3 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 3,400 ล้านบาท และ 1 โครงการในกรุงเทพฯ ย่านสาทร-นางลิ้นจี่

ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะมียอดขาย 2,100 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าใน 3 ปี จากนี้จะมียอดขายแตะ 5,000 ล้านบาท จากการเร่งขยายตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น

นอกจากนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรก ทำให้กำลังซื้อชะลอตัว ซึ่งมีผลต่อการซื้อที่อยู่อาศัยที่จะชะลอตัวไปบ้างเช่นกัน เพราะผู้บริโภคมีภาระมากขึ้น แต่ยอดขายของบริษัทที่แม้จะทรงตัวกลับมีกำไรเพิ่มขึ้น 3-4 เท่าจากปีก่อน จากการขายธุรกิจโรงแรมที่ภูเก็ตเข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์