posttoday

ตลาดที่อยู่อาศัย5เดือนแรกปี56

25 มิถุนายน 2556

โดย...สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

โดย...สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
 
โครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่

ในระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ค. ของปี 2556 มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล รวม 173 โครงการ จำนวนหน่วยรวมกันประมาณ 5 หมื่นหน่วย มากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

จากจำนวนโครงการเปิดใหม่ทั้งหมด แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 94 โครงการ จำนวนหน่วยประมาณ 1.6 หมื่นหน่วย โดยผู้ประกอบการซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณร้อยละ 65 ของจำนวนหน่วยบ้านจัดสรรที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด

ที่เหลือเป็นอาคารชุด 79 โครงการ จำนวนหน่วยรวม 3.3 หมื่นหน่วย โดยผู้ประกอบการซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณร้อยละ 70 ของจำนวนหน่วยห้องชุดที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ยังเป็นผู้ชี้นำความเคลื่อนไหวของตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล

เปรียบเทียบกับช่วง 5 เดือนแรกของปี 2555 มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล รวม 141 โครงการ จำนวนหน่วยรวมกันประมาณ 3.8 หมื่นหน่วย จากจำนวนนี้แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 79 โครงการ จำนวนหน่วยรวม 9,800 หน่วย เป็นโครงการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ร้อยละ 61

ขณะที่เป็นอาคารชุดมี 62 โครงการ จำนวนหน่วยรวม 2.8 หมื่นหน่วย เป็นโครงการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ร้อยละ 70 ของจำนวนหน่วยห้องชุดที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว

เหตุผลที่มีจำนวนโครงการและจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่เพิ่มขึ้นมากในปีนี้ทั้งในประเภทบ้านจัดสรรและประเภทอาคารชุด เนื่องจากในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วยังเป็นช่วงฟื้นฟูหลังอุทกภัยใหญ่

ทั้งนี้ การเปิดโครงการอาคารชุดใหม่ได้เริ่มชะลอตัวลงในระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค. 2556 โดยมีโครงการเปิดขายใหม่เพียง 6,000 หน่วย หลังจากที่เปิดในไตรมาสแรกแล้ว 2.7 หมื่นหน่วย

ส่วนการเปิดโครงการบ้านจัดสรรใหม่ในระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค. 2556 มีประมาณ 6,100 หน่วย หลังจากที่เปิดในไตรมาสแรกแล้วประมาณ 1 หมื่นหน่วย ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์คาดว่าการเปิดโครงการใหม่ประเภทบ้านจัดสรรจะมีสัดส่วนมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

สำหรับในต่างจังหวัด ผู้ประกอบการยังคงเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยใหม่เพิ่มขึ้นทั้งในประเภทบ้านจัดสรรและประเภทอาคารชุด แต่มีสัดส่วนความเติบโตน้อยกว่าปี 2555 ยกเว้นในบางจังหวัดที่พบว่ายังมีปริมาณหน่วยของห้องชุดจำนวนมาก เช่น ใน จ.ชลบุรี และขอนแก่น

ขณะเดียวกัน ราคาที่ดินซึ่งเคยเพิ่มสูงมากในอัตราเท่าตัวในหลายจังหวัดทางภาคอีสานก็เริ่มชะลอความร้อนแรงลงในพื้นที่ส่วนใหญ่ โดยแม้ราคาจะยังคงเพิ่มขึ้นแต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง

ที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่

ในระหว่างเดือน ม.ค.-เม.ย. 2556 มีหน่วยที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ประมาณ 2.9 หมื่นหน่วย |(ลดลงร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555 ซึ่งมีจำนวน 3.4 หมื่นหน่วย) โดยมีสัดส่วนเป็นห้องชุดสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่เท่ากับร้อยละ 47 ของหน่วยที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ทั้งหมด เทียบกับร้อยละ 42 ตลอดปี 2554 ร้อยละ 56 ตลอดปี 2553 และร้อยละ 57 ตลอดปี 2552

สำหรับที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวมีสัดส่วนร้อยละ 30 ของหน่วย|ที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ทั้งหมด ทาวน์เฮาส์มีสัดส่วนร้อยละ 10 และประเภทอาคารพาณิชย์พักอาศัยมีสัดส่วนร้อยละ 11

ทั้งนี้ หน่วยที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ประเภทห้องชุดมีสัดส่วนลดลงในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา เนื่องมาจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานและผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทำให้การก่อสร้างอาคารชุดจนเสร็จมีความล่าช้ากว่ากำหนด (เพราะต้องสร้างให้เสร็จทั้งอาคาร จึงจะจดทะเบียนเป็นห้องชุดใหม่ได้)

การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย

ในระหว่างเดือน ม.ค.-เม.ย. 2556 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล รวมกันประมาณ 4.8 หมื่นหน่วย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับจำนวน 4.4 หมื่นหน่วย ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2555) ในจำนวนนี้แบ่งเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ประเภทห้องชุด 1.8 หมื่นหน่วย หรือร้อยละ 38 ของหน่วยที่อยู่อาศัยทั้งหมด เป็นทาวน์เฮาส์ร้อยละ 32 เป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 19 เป็นอาคารพาณิชย์พักอาศัยร้อยละ 9 และเป็นบ้านแฝดร้อยละ 2
จากหน่วยห้องชุดทั้งหมดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ใน 4 เดือนแรกของปีนี้ แบ่งเป็นห้องชุดใหม่ร้อยละ 63 ห้องชุดมือสองร้อยละ 37

จากหน่วยทาวน์เฮาส์ทั้งหมดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ใหม่ร้อยละ 44 ทาวน์เฮาส์มือสองร้อยละ 56 และจากหน่วยบ้านเดี่ยวทั้งหมดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยวใหม่ร้อยละ 45 บ้านเดี่ยวมือสองร้อยละ 55

จึงเห็นได้ว่าบ้านแนวราบที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เป็นหน่วยมือสองเป็นส่วนใหญ่ แต่ห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์กลับเป็นห้องชุดใหม่เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากในตลาดมีการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่จำนวนมากมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา