posttoday

ค้าปลีกวัสดุก่อสร้างร้อนระอุ

27 กุมภาพันธ์ 2556

โฮมโปร ทุ่มหมื่นล้าน ส่ง “เมกา โฮม” เปิดศึกค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ท้าชน 2 คู่แข่งยักษ์ใหญ่ ไทวัสดุ-โกลบอลเฮ้าส์

โฮมโปร ทุ่มหมื่นล้าน ส่ง “เมกา โฮม” เปิดศึกค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ท้าชน 2 คู่แข่งยักษ์ใหญ่ ไทวัสดุ-โกลบอลเฮ้าส์

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมลงทุนในธุรกิจใหม่ภายใต้แบรนด์ “เมกา โฮม” ในช่วงไตรมาส 4 โดยจะเป็นร้านค้าปลีกและค้าส่งวัสดุก่อสร้างแบบโอเพนแอร์ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าช่างและงานโครงการเป็นหลัก ซึ่งคล้ายกับคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ดูโฮม โกลบอลเฮ้าส์ และไทวัสดุ โดยได้เตรียมเงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 2 เท่าตัว เพื่อใช้เปิดสาขาเมกา โฮม และขยายสาขาใหม่ของโฮมโปรทั้งในต่างจังหวัดและต่างประเทศ

สำหรับความแตกต่างระหว่างโฮมโปร กับเมกา โฮม อยู่ที่กลุ่มเป้าหมาย โดยโฮมโปรจะจำหน่ายทั้งวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้าน เน้นจับลูกค้าตลาดบ้านเป็นหลัก แบ่งเป็น บ้านเก่า 70% และบ้านใหม่ 30% มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1.5 แสนล้านบาท เติบโต 5-10%

ขณะที่ตลาดของเมกา โฮม จะเน้นขายวัสดุก่อสร้าง และแข่งขันในด้านราคาในกลุ่มสินค้าบางรายการ มีกลุ่มช่างเป็นลูกค้าหลัก โดยปัจจุบันตลาดดังกล่าวมีมูลค่ามากถึง 1.3 แสนล้านบาท เติบโต 7-10% ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจมาก โดยเฉพาะในต่างจังหวัดจะขยายตัวตามโครงการที่เกิดใหม่

“แม้ว่าเราจะเข้าสู่ตลาดช้ากว่าคู่แข่ง แต่ไม่ถือว่าช้าเกินไป เพราะความสำคัญอยู่ที่เราเห็นช่องว่างของตลาดหรือไม่ ก็เหมือนกับการกินเค้ก เรากินเค้กในตลาดผู้บริโภคอย่างสบายๆ มานาน เห็นเค้กชิ้นข้างๆ น่าอร่อย ก็ขอเข้าไปกินบ้างเท่านั้นเอง” นายคุณวุฒิ กล่าว

สำหรับแนวทางการขยายสาขาของเมกา โฮม จะเน้นชานเมืองและต่างจังหวัดเป็นหลัก ขนาดพื้นที่ประมาณ 2-2.5 หมื่น ตร.ม. โดยในปีนี้จะเปิด 3 สาขา คือ นวนคร 1 สาขา และอีก 2 สาขาอยู่ในต่างจังหวัด ใช้เงินลงทุนสาขาละ 500 ล้านบาท ตั้งเป้าจะมี 20 สาขา สร้างยอดขายแตะ 1.4 หมื่นล้านบาท ภายใน 4 ปี หรือเฉลี่ยยอดขายสาขาละ 700 ล้านบาทต่อปี

นายคุณวุฒิ กล่าวอีกว่า สำหรับโฮมโปรปีนี้จะมีสาขาใหม่อีกประมาณ 10 สาขา และจะมีสาขาครบ 80 แห่ง ภายใน 4 ปี จากปัจจุบันมี 53 สาขา โดยการขยายสาขาจะเน้นทั้งตลาดต่างจังหวัดและต่างประเทศ ซึ่งในต่างประเทศจะเริ่มเปิดสาขาแรกที่มาเลเซียในช่วงปลายปีนี้ และเตรียมศึกษาตลาดที่เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์

สำหรับผลประกอบการปี 2555 ที่ผ่านมา โฮมโปรมีรายได้ 34,541.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.78% โดยนับจากนี้ตั้งเป้าการเติบโตไม่น้อยกว่า 15% ส่วนภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้าน ปีนี้เชื่อว่าจะมีการเติบโตที่ดีมาก เพราะมีที่อยู่อาศัยเตรียมส่งมอบจำนวนมหาศาล และปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจที่ดี ทำให้กำลังซื้อสูงขึ้น มีความต้องการตกแต่งบ้าน ซ่อมแซมบ้านเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มของตกแต่งบ้านจะเติบโตมากที่สุด

ทั้งนี้ การเข้าสู่ตลาดวัสดุก่อสร้างค้าส่ง ค้าปลีกของเมกา โฮม จะส่งผลให้การแข่งขันดุเดือดมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ไทวัสดุในเครือเซ็นทรัลมีการขยายตัวอย่างร้อนแรง มีสาขามากถึง 25 แห่งทั่วประเทศ ในเวลาเพียง 2-3 ปี ส่วนโกลบอลเฮ้าส์ที่ปัจจุบันมีด้วยกัน 20 สาขาทั่วประเทศ หลังจากกลุ่มเอสซีจีเข้าซื้อกิจการในปีที่ผ่านมา คาดว่าปีนี้จะมีความเคลื่อนไหวใหม่ๆ ที่น่าสนใจเช่นกัน