posttoday

บ้านต่ำล้านใกล้สูญพันธุ์

14 พฤศจิกายน 2555

บ้านต่ำล้านหายไปจากตลาด พฤกษาชี้อีก 3 ปีต้นทุนทำไม่ไหว คาดบ้านปีหน้าขึ้นอีก 5% อ้างเงินเฟ้อ ค่าจ้าง

บ้านต่ำล้านหายไปจากตลาด พฤกษาชี้อีก 3 ปีต้นทุนทำไม่ไหว คาดบ้านปีหน้าขึ้นอีก 5% อ้างเงินเฟ้อ ค่าจ้าง

บ้านต่ำล้านใกล้สูญพันธุ์

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า ปัจจุบันบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มีสัดส่วนอยู่เพียง 10% ของบ้านที่เปิดขายทั้งหมด ลดลงจาก 5 ปีที่แล้ว ที่มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 30% เนื่องจากต้นทุนการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นทุกปี และคาดว่า ใน 2-3 ปีข้างหน้าจะไม่สามารถพัฒนาบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทได้อีกแล้ว

“ปัจจุบันบ้านและคอนโดมิเนียมราคาต่ำที่สุดที่บริษัทเปิดขายราคาอยู่ที่ 9 แสน-1 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนน้อยมาก เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว ที่มีสัดส่วน 30% แต่บ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จะยังคงมีขายอยู่อีก 2-3 ปี ซึ่งคาดว่าต้นทุนจะทำราคาบ้านให้ต่ำกว่า 1 ล้านบาทไม่ได้แล้ว” นายทองมา กล่าว

สำหรับแนวโน้มตลาดในปีหน้า ปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อจากการปรับค่าจ้าง จะทำให้ต้นทุนบ้านเพิ่มขึ้นอีกซึ่งจะทำให้ราคาบ้านปรับขึ้นไปอีก 5% ขณะเดียวกันผู้บริโภคเองก็จะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มที่ขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ บริษัทจึงพยายามบริหารจัดการด้านต้นทุน เพื่อปรับราคาบ้านให้ขึ้นไม่เกิน 2-3% ให้สอดรับกับกำลังซื้อในอนาคต

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าตลาดจะขยายตัวเกิน 10% เช่นเดียวกับปีนี้ที่ตลาดจะเติบโตเกิน 10% โดยคอนโดมิเนียมจะยังเป็นตัวนำตลาดที่มีสัดส่วนสูงเกินกว่า 50% ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า ที่คาดว่าจะโตได้ถึง 6-7% แม้ว่าจะมีปัญหาเศรษฐกิจโลกเข้ามากระทบภาคส่งออก แต่ก็ยังขยายตัวอยู่

นายทองมา กล่าวอีกว่า ในปีนี้แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้มียอดขายสูงสุดก็ไม่เป็นไร เพราะรายได้และกำไรของบริษัทก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดีและเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ โดยใน 9 เดือนแรกบริษัทมีรายได้รวม 1.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.27% และคาดว่าถึงสิ้นปีจะมีรายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 2.6 หมื่นล้านบาท

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า บริษัทมียอดขายในรอบ 9 เดือนรวมทั้งสิ้น 2 หมื่นล้านบาท ลดลง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม แต่ตลาดเริ่มฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติแล้ว และคาดว่าจนถึงสิ้นปีจะทำยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 2.9 หมื่นล้านบาท

ด้านแผนปีหน้าจะเปิดโครงการใหม่ใกล้เคียงกับปีนี้ คือประมาณ 34 โครงการ  ตั้งเป้ายอดขาย 3.5 หมื่นล้านบาท มีรายได้รวม 3.4 หมื่นล้านบาท