posttoday

พฤกษาเร่งสปีดสร้างบ้านเร็ว

12 พฤศจิกายน 2555

พฤกษาปรับทัพรับวิกฤตแรงงานขาดแคลน ชูเทคโนโลยีก่อสร้างอาร์อีเอ็ม ก่อสร้างบ้านเร็วเหลือ 21 วันต่อหลัง

พฤกษาปรับทัพรับวิกฤตแรงงานขาดแคลน ชูเทคโนโลยีก่อสร้างอาร์อีเอ็ม ก่อสร้างบ้านเร็วเหลือ 21 วันต่อหลัง

พฤกษาเร่งสปีดสร้างบ้านเร็ว

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า ปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคก่อสร้างยังคงเป็นปัญหาใหญ่กับภาคอสังหาริมทรัพย์อีกอย่างน้อย 2 ปี ทำให้ผู้ประกอบการจะต้องเร่งปรับตัวด้วยการนำระบบการก่อสร้างใหม่ มาใช้กับการก่อสร้างบ้านให้รวดเร็วและมีคุณภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทได้นำเทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านแบบ Real Estate Manufacturing (REM) หรืออาร์อีเอ็ม เข้ามาใช้เพื่อควบคุมการก่อสร้างตามลำดับขั้นตอน ในระหว่างการก่อสร้างเพื่อให้บ้านมีคุณภาพ และย่นระยะเวลาก่อสร้างลงให้เหลือเฉลี่ย 21 วัน จากก่อนหน้านี้บ้านต่อหลังใช้เวลาก่อสร้างเฉลี่ย 45 วัน

“ในอดีตบริษัทเคยใช้เวลาก่อสร้าง 6-7 เดือนต่อหลัง แต่เมื่อนำเทคโนโลยีการก่อสร้างพรีคาส์ตมาใช้สามารถย่นเวลาก่อสร้างได้เหลือ 2 เดือน ซึ่งต่อมาก็พยายามลดเวลาก่อสร้างได้เหลือ 45 วัน จนถึงปัจจุบันใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน” นายประเสริฐ กล่าว

สำหรับเทคโนโลยีอาร์อีเอ็มเป็นระบบที่ใช้แรงงานก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะให้ผู้รับเหมาก่อสร้างนั้นทำงานก่อสร้างเฉพาะให้ส่วนงานที่ตนเองมีความถนัด เช่น งานปูกระเบื้องพื้นก็จะทำเฉพาะปูกระเบื้อง หรืองานทางสีก็จะทำเฉพาะงานดังกล่าว ไม่ข้ามสะเปะสะปะไปงานก่อสร้างทุกประเภท ซึ่งกระบวนการผลิตจะเหมือนกับการผลิตรถยนต์

กระบวนการก่อสร้างนั้นจะแบ่งเวลาการก่อสร้างออกเป็น 7 ช่วง เช่น ก่อสร้างบ้าน 1 หลัง เช่น วันที่ 1-3 ทำเข็มรั้ว รากฐาน รั้วรอบบ้าน เทพื้นคอนกรีต วันที่ 4-6 จะทำผนังพรีคาส์ต รั้วคอนกรีตรอบบ้าน และผนังพรีคาส์ตชั้น 2 เป็นต้น

การนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้จะทำให้ปัญหาการแจ้งซ่อมจะน้อยลง จากที่ผ่านมาจะพบงานมีปัญหา 14 จุด จะเหลือเพียง 3 จุด โดยบริษัทได้นำร่องใช้ระบบดังกล่าว เมื่อปี 2554 ใน 2 โครงการ และในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะใช้ถึง 80% ของการก่อสร้าง

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าตั้งเป้าว่าจะใช้ให้ได้ 100% โดยระบบดังกล่าวใช้เฉพาะการก่อสร้างที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบเท่านั้น ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำไปใช้กับการก่อสร้างในโครงการที่บริษัทเปิดขายต่างประเทศอีกด้วย

ดังนั้น 1 ไลน์การผลิตจะใช้คนงาน 80-100 คน มีกำลังการผลิต 10 หลังต่อเดือน ซึ่งจะทำให้สามารถส่งมอบบ้านได้เพิ่มเป็น 1.5 หมื่นหลังต่อปี จากช่วง 2 ปีก่อนที่มีการส่งมอบเพียง 1 หมื่นหลังต่อปี

นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มอัตรากำไรของบริษัทเพิ่มเป็น 18-20% จากปกติอยู่ที่ 14-15%