อั่งเปาแอสเสทรุกหัวเมืองตจว.

อั่งเปา แอสเสท สยายปีกลงทุนยันหัวเมืองต่างจังหวัด พัทยา ภูเก็ต เขาใหญ่ ชูจุดขายที่พักแนวสุขภาพ

นายวิษณุ  เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อั่งเปา แอสเสท เปิดเผยว่าผลกระทบจากภาวะอุทกภัยเมื่อปลายปีก่อน ทำให้บริษัทฯ มีแผนขยายการลงทุนในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยขณะนี้ได้เริ่มเข้าไปพัฒนาโครงการที่ พัทยา  และอยู่ระหว่างการพิจารณาซื้อที่ดินใน จ.ภูเก็ต และ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา  คาดว่าจะเริ่มได้ในไตรมาส 3-4 ปีนี้ ซึ่งจะใช้งบในการซื้อที่ดิน รวมถึงการเขาซื้อโครงการที่มีปัญหาก่อสร้างไม่เสร็จนำมาพัฒนา จำนวน 1,000 ล้านบาท ดำเนินการในรูปแบบการสว็อปหุ้น รวมถึงการเทคโอเวอร์โครงการ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทฯใช้จึงมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด 

“ผมมองว่าปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่มากนักในครี่งปีแรก คาดว่าจะเริ่มคลี่คลายในครึ่งปีหลัง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม เราจึงปรับตัวหันไปพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดมากขึ้น  โดยชูจุดขายเป็นที่อยู่อาศัยแนวสุขภาพ เน้นไปยังกลุ่มผู้สูงอายุไว้พักอาศัยเป็นบ้านหลังที่สอง อย่างเช่นโครงการ ณุศาศิริ ชีวา พระราม 2 และที่พัทยา โดยนำแนวคิดโครงการแบงคอค เมดิเพล็กซ์ ซึ่งเป็นศูนย์แพทย์ทางเลือกไปใช้ผสมผสาน”นายวิษณุกล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯจะเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 4 โครงการ แนวสูง  1 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8,000 ล้านบาท  ประกอบด้วย1. ณุศาศิริ เลค โคโม  พระราม 2  บ้านหรูราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาท จำนวน 49 ยูนิต บ้านเดี่ยวบนที่ดินขนาด 1 ไร่  2.ณุศาศิริ  ชีวา พระราม 2  บ้านเดี่ยว จำนวน 165 ยูนิต บนเนื้อที่ 100 ไร่   3. ณุศานราทร  สุวินทวงศ์ ซึ่งเป็นโครงการทาวเฮ้าส์ ที่เทคโอเวอร์จาก บริษัท วีรวรรณ เป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่สามารถพัฒนาแล้วเสร็จมาพัฒนาต่อ  4.โครงการณุศา ชีวา-พัทยา บนเนื้อที่ 100 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว-สองชั้น จำนวน 500 ยูนิต  5. เฟรช คอนโดมิเนียม บางโพ  5 อาคาร จำนวน 1,132 ยูนิต  ขนาด 30-45 ตร.ม. ราคาขายเฉลี่ยยูนิตละ 1 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายไว้ 6,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายไว้ 2,500 ล้านบาท  จากปีก่อนที่มียอดขาย 1,800 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้ 788 ล้านบาท  ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตกว่า 200%  เนื่องจากมีโครงการที่เป็นยอดแบ็คล็อค รอรับรู้รายได้จำนวน  1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 500 ล้านบาท แนวสูง  1,000 ล้านบาท  จาก 9 โครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขาย โดยบริษัทฯตั้งเป้าว่า  5 ปี นับจากปีนี้ที่จะเป็นบริษัทฯที่มียอดรับรู้รายได้อยู่ในอันดับท็อปเท็น บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่มีรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท