posttoday

FTREIT โชว์ผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 63 กวาดรายได้กว่า 3,048.4 ล้านบาท พร้อมจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน 0.1680 บาทต่อหน่วยทรัสต์

06 พฤศจิกายน 2563

FTREIT ประกาศผลประกอบการปีงบประมาณ 2563 (วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 30 กันยายน 2563) (“ปี 2563”) สามารถสร้างรายได้รวม 3,048.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.6% และมีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 2,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20%

กองทรัสต์เข้าลงทุนซื้อทรัพย์สินศักยภาพสูงเพิ่ม จากทั้งในและนอกกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย (FPT) รวมมูลค่ากว่า 4,908 ล้านบาท และยังคงครองสถานะ “กองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย” ด้วยมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการกว่า 41,143.6 ล้านบาท

กองทรัสต์ประกาศจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนไตรมาส 4/2563 จำนวน 0.1680 บาทต่อหน่วยทรัสต์ รวมจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในปี 2563 รวมทั้งสิ้น 0.6690 บาท

กรุงเทพฯ 5 ตุลาคม 2563

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM”  ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” เปิดเผยผลการดำเนินงานใน ปีงบประมาณ 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 มีรายได้รวมจำนวน 3,048.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 241.3 ล้านบาท หรือ 8.6% ขณะที่รายได้จากการลงทุนสุทธิมีจำนวน 2,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 349.6 ล้านบาท หรือ 20%  โดยมีปัจจัยหลักมาจาก ผลประกอบการโดยรวมที่ดีขึ้น และ การเพิ่มขึ้นของรายได้จากทรัพย์ที่เข้าลงทุนใหม่ในปี 2563

ในรอบปี 2563 ถือว่าเป็นปีที่ FTREIT มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,908 ล้านบาทโดยแบ่งเป็น

(1) คลังสินค้าจาก บริษัท สหไทย พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด รวม 24 ยูนิต มูลค่าการเข้าลงทุน 2,050 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินมีที่ตั้งใกล้กับท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

(2) อาคารโรงงานและคลังสินค้าจากกลุ่มบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย บนทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ในจังหวัดอยุธยา ปทุมธานี ชลบุรี และระยอง จำนวน 36 ยูนิต มูลค่าการเข้าลงทุนประมาณ 2,858 ล้านบาท  สำหรับทรัพย์สินส่วนที่เหลือตามที่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้พิจารณาอนุมัติในที่ประชุมวิสามัญครั้งที่ 1/2563 จะทำการโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียนสิทธิการเช่าให้เสร็จสิ้นภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2564

ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 กองทรัสต์ FTREIT มีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการรวม 614 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 1.87 ล้านตารางเมตร รวมมูลค่า 41,143.6 ล้านบาท ซึ่งยังครองสถานะกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

FIRM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ FTREIT ได้มุ่งเน้นการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ และด้วยการบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สถานการณ์ที่กดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ ณ 30 กันยายน 2563 FTREIT ยังรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ไว้ได้ที่ 82.2%

พร้อมกันนี้ FTREIT ได้ประกาศจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาสที่ 4/2563 ในอัตรา 0.1680 บาทต่อหน่วยทรัสต์ ซึ่งมีกำหนดจ่ายในวันที่ 2 ธันวาคม 2563  รวมประโยชน์ตอบแทนในรอบปีงบประมาณ 2563 ที่จ่ายรวมทั้งสิ้น 0.6690 บาทต่อหน่วยทรัสต์

FTREIT โชว์ผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 63 กวาดรายได้กว่า 3,048.4 ล้านบาท พร้อมจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน 0.1680 บาทต่อหน่วยทรัสต์

นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FIRM” เปิดเผยว่า “ปี 2563 เป็นปีที่ต้องเผชิญกับความท้าทายและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง ตลอดจนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งแม้ว่าภาคการผลิต และการขนส่งจะได้รับผลกระทบที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับภาคการท่องเที่ยว และการบริการ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อรายได้ของกิจการที่อยู่ในอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยส่วนหนึ่งเป็นผู้เช่าอาคารโรงงาน และคลังสินค้าของ FTREIT ทั้งนี้ทางผู้จัดการกองทรัสต์มีนโยบายให้ความช่วยเหลือผู้เช่าโดยการลดค่าเช่า รวมถึงการเลื่อนชำระค่าเช่าตามสมควร โดยพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้เช่าเป็นรายบริษัทตามขนาดผลกระทบที่ผู้เช่าได้รับจากสถานการณ์ COVID-19 เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

ด้วยพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งของ FTREIT ทำให้ยังคงสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง การันตีจากการได้รับจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A (Stable Outlook) จากทริสเรทติ้ง รวมถึงการได้รับคัดเลือกให้เข้าคำนวณในดัชนี FTSE Global Equity Index Series (GEIS) ซึ่งเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีชั้นนำระดับสากล ช่วยเพิ่มโอกาสและความน่าเชื่อถือให้กองทรัสต์ FTREIT สามารถเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ FTREIT จะยังคงมุ่งหน้าลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มอื่นๆ กองทรัสต์ต่อไป”