posttoday

สธค.ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 ช่วยเหลือผู้มาใช้บริการ แบ่งเบาภาระด้านการศึกษา มอบทุนแก่บุตรธิดาที่เรียนดีกว่า 104 ทุน

31 สิงหาคม 2563

สธค.ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 ช่วยเหลือผู้มาใช้บริการ แบ่งเบาภาระด้านการศึกษา มอบทุนแก่บุตรธิดาที่เรียนดีกว่า 104 ทุน พร้อมจัดกิจกรรมอบรมการบริหารเงินและการดูทองคำแก่ประชาชน ตอบรับสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจและราคาทองคำ

เสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2563 – สำนักงานธนานุเคราะห์ หรือ สธค. จัดพิธีมอบทุนการศึกษาและมอบเกียรติบัตร จาก กิจกรรมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสำนักงานธนานุเคราะห์ ณ ห้องประชุมชั้น 2 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โดยนายโชคชัย วิเชียรชัยยะ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี เพื่อมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรผู้มาใช้บริการที่มีรายได้น้อยของสำนักงานธนานุเคราะห์ (โรงรับจำนำของรัฐ) ประจำปี 2563 จำนวน  104 คน และมอบเกียรติบัตรแก่ผู้เข้ารับการอบรมโครงการอบรมการบริหารเงินและการดูทองคำจำนวน 40 คน หวังร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ได้แบ่งเบาภาระแก่ผู้ปกครองและสนับสนุนด้านองค์ความรู้แก่ประชาชน ในช่วงวิกฤติการณ์โควิด – 19

สธค.ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 ช่วยเหลือผู้มาใช้บริการ แบ่งเบาภาระด้านการศึกษา มอบทุนแก่บุตรธิดาที่เรียนดีกว่า 104 ทุน

นายประสงค์ พันธ์ลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ กล่าวว่า “ปี 2563 นี้เป็นที่ทราบดีว่าหลังจากพ้นวิกฤติการณ์โควิด – 19 มีประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางทางสังคม ได้รับผลกระทบ จำนวนมาก ทั้งการถูกเลิกจ้าง รายได้ที่ลดลงแต่รายจ่ายจากขึ้น ซึ่งนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เล็งเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงได้มอบนโยบายให้กับสธค. ว่าให้บูรณาการการช่วยเหลือผู้มาใช้บริการโรงรับจำนำของรัฐที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์โควิด – 19 ให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และฉับไวทันต่อสถานการณ์มากขึ้น ซึ่งหน่วยงานของเรามีบทบาทพันธกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ผู้ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ที่จะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและการประกอบสัมมาชีพเป็นสำคัญอยู่แล้ว จึงได้ดำเนินการ จัดกิจกรรมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสำนักงานธนานุเคราะห์ ทั้งการมอบทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้มาใช้บริการที่มีรายได้น้อยที่มีผลการเรียนดี ความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 104 ทุน เป็นจำนวนเงินรวม 312,000 บาท ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว ทุนที่มอบให้ในครั้งนี้ถือเป็นขวัญกำลังใจในการตั้งใจเรียน เพื่อเป็นรากฐานทางการศึกษา สู่การมีอาชีพที่สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว และยังสามารถนำความรู้ไปช่วยพัฒนาสังคมและประเทศได้ในอนาคต

สธค.ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 ช่วยเหลือผู้มาใช้บริการ แบ่งเบาภาระด้านการศึกษา มอบทุนแก่บุตรธิดาที่เรียนดีกว่า 104 ทุน

อีกทั้ง สธค.ยังได้ดำเนินการจัดโครงการอบรมการบริหารเงินและการดูทองคำ โครงการที่นำองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญในการเรื่องการวิเคราะห์ทองคำ เผยแพร่สร้างประโยชน์สู่สังคม ด้วยทองคำ เป็นสินทรัพย์ที่ซื้อง่าย ขายคล่อง ได้รับการยอมรับในระดับนานาประเทศ มีบทบาทสำคัญและเป็นหนึ่ง ในตัวชี้วัดด้านการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและการเงิน อีกทั้งสถานการณ์ปัจจุบัน ราคาทองคำ มีความผันผวนมีการปรับตัวสูงเป็นอย่างมาก จึงได้ดำเนินการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับตรวจสอบคุณลักษณะและราคาของทองคำเบื้องต้น เพื่อประโยชน์ในการซื้อขายทองคำ โดย นายเจษฎา มะเยาะ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านธุรกิจการรับจำนำ สำนักงาน ธนานุเคราะห์ และการบริหารจัดการด้านการเงิน แนวความคิด วิธีการวางแผนในการใช้จ่าย โดย ดร.ชยงการ ภมรมาศ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการเงินและธนาคาร มหาวิทยาลัยเทคโลยีมหานคร แก่ผู้ประกอบการและผู้มีอาชีพรับจ้าง เพื่อเป็นองค์ความรู้ต่อยอดสู่การไปใช้ประโยชน์ด้านการประกอบอาชีพและสร้างรายได้ จำนวน 40 คน โดยคาดว่าจะเปิดรับเพิ่มมากขึ้นในปีต่อไป เนื่องจากมีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก”

สธค.ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 ช่วยเหลือผู้มาใช้บริการ แบ่งเบาภาระด้านการศึกษา มอบทุนแก่บุตรธิดาที่เรียนดีกว่า 104 ทุน

นอกจากนี้ ในปีนี้สำนักงานธนานุเคราะห์ได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทยดำเนินโครงการส่งดอกเบี้ย รับจำนำออนไลน์ ให้ผู้มาใช้บริการรับจำนำสแกนไปที่ QR Code ในตั๋วรับจำนำก็สามารถชำระเงินค่าดอกเบี้ยทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรีค่าธรรมเนียม ผ่านแอปพลิเคชันกรุงไทย NEXT ได้สะดวกรวดเร็ว นับว่าเป็นบริการที่ทันสมัย เป็นความมุ่งมั่นในการดำเนินงานที่ตอบสนองต่อทันต่อความต้องการของประชาชนผู้มาใช้บริการอันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการให้บริการสอดคล้องกับแนวทางและภารกิจขององค์กรในการขับเคลื่อน ตามแผนปฏิบัติด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อสร้างความสมดุลด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของของสำนักงานธนานุเคราะห์ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์      

ทั้งนี้ สธค. มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสำนักงานธนานุเคราะห์ ครั้งนี้ จะเป็นกิจกรรมที่ได้ช่วยเหลือ เป็นจุดเริ่มต้นของความพยายาม เป็นหนึ่งขวัญกำลังใจ ตลอดจนสร้างสร้างรากฐานและความพร้อมของประชาชนคนไทย ในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากวิกฤติการณ์โควิด – 19 อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป