มายด์แชร์ชี้ปี 2020 เม็ดเงินโฆษณาจะโตขึ้นจากสื่อดิจิทัล ทีวีและสื่อนอกบ้าน เทคโนโลยีและโมบายเพย์เมนต์เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญกระตุ้นยอดอีคอมเมิร์ซ
โดยอีคอมเมิร์ซและโมบายเพย์เมนต์จะยังมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ และเชื่อว่าเม็ดเงินโฆษณาบนทีวีจะสูงขึ้นในช่วงการถ่ายทอดโอลิมปิก
- 2020 ยุคของเทคโนโลยี 5G ที่นับเป็นปีเบิกทางให้กับสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเร็วขึ้นและดีขึ้น
โดยอีคอมเมิร์ซและโมบายเพย์เมนต์จะยังมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ และเชื่อว่าเม็ดเงินโฆษณาบนทีวีจะสูงขึ้นในช่วงการถ่ายทอดโอลิมปิก ดิจิทัลทีวีมีการปรับตัวคอนเทนต์สร้างสรรค์พร้อมทั้งขยายพันธมิตรเพื่อเก็บฐานคนดูบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งจะทำให้วงการทีวีมีการแข่งขันที่สูงขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่สื่อนอกบ้านเติบโตตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคบนสถานีรถไฟฟ้าและห้างเปิดใหม่
กรุงเทพ - มายด์แชร์ เอเยนซี่เครือข่ายด้านการตลาดและการสื่อสาร เผยในวันนี้ถึง
โอกาสและความท้าทายสำหรับแบรนด์ในการสื่อสารการตลาดในปี 2020 ยุคที่ผู้บริโภคมีเทคโนโลยีตอบสนองต่อความต้องการที่เฉพาะและแยกย่อยมากขึ้น โดย ปัทมวรรณ สถาพร – กรรมการผู้จัดการ มายด์แชร์ กล่าวว่า “ต้องยอมรับว่าปี 2019 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับวงการโฆษณา ตั้งแต่นักการตลาด เอเยนซี่ และแพลตฟอร์มต่าง ๆ
เราจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนแพลน ตั้งรับและปรับตัวตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
โดยในปี 2020 นี้เราเชื่อว่าเม็ดเงินในอุตสาหกรรมโฆษณาจะเติบโตขึ้น เนื่องจากมีตัวกระตุ้นจากปัจจัยต่าง ๆ สิ่งที่น่าจับตามองในปีนี้คือเรื่องของอีคอมเมิร์ชและโมบายเพย์เมนต์ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นบรรทัดฐานของการซื้อของและจ่ายเงินของผู้บริโภคยุคนี้ รวมไปถึงยุคทองของอินฟลูเอนเซอร์ที่สามารถช่วยให้แบรนด์ปิดการขายได้มากขึ้น ซึ่งนักการตลาด 2020 ต้องพร้อมที่จะหาวิธีคิดกลยุทธ์การสื่อสารแบบสร้างสรรค์เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคยุค 5G ที่มีความเฉพาะและแยกย่อยมากขึ้น”
มายด์แชร์ยังได้ให้มุมมองต่ออุตสาหกรรมสื่อในปี 2020 โดย ดังต่อไปนี้
- คาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น 8% เทียบจากปี 2019 หรือมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 125,000 ล้านบาท
- ดิจิทัลยังคงเป็นสื่อที่มีการเติบโตสูงที่สุด ในขณะที่ทีวียังคงเป็นสื่อที่แข็งแกร่งที่ขับเคลื่อนด้วยทีวีดิจิทัล ที่จำนวนผู้ชมในช่องหลักและช่องดิจิทัลในปัจจุบันไม่ได้แตกต่างกันมาก ทีวีดิจิทัลก็เก็บฐานคนดูจากการไปเป็นพันธมิตรกับแอปพลิเคชัน
ต่าง ๆ ด้วย - สื่อนอกบ้านเติบโตขึ้นจากการเปิดสถานีรถไฟฟ้าสายใหม่ และจะเป็นจอดิจิทัลมากขึ้น รวมไปถึงสื่อในโรงภาพยนตร์ที่โตขึ้น การมีห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้นใหม่ในทุกมุมเมืองและกระจายตัวไปตามต่างจังหวัดมากขึ้น
- อีคอมเมิร์ซและโมบายเพย์เมนต์ (E-commerce and Mobile Payment) ที่เติบโตขึ้นอย่างมากเนื่องจากเรามีเทคโนโลยี การขนส่ง และระบบการเงินออนไลน์ที่เอื้อความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค และในฝั่งของแบรนด์เองก็สามารถเห็น Consumer Journey เพื่อเก็บ Data และตอบสนองต่อผู้บริโภคได้อย่างเจาะจงและไวมากขึ้น
- อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ที่แบรนด์สามารถใช้ได้ทั้งเป็นตัวสร้าง Awareness และเป็นช่องทางการขายของไปในตัวด้วย
เทรนด์ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนในปี 2020 มีดังนี้
- Embracing Technology 5G การเข้าสู่ยุค 5G ของไทย ด้วยเทคโนโลยีนี้จะทำให้ผู้บริโภคสามารถตอบสนองต่อสื่อดิจิทัลได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
- More Content, Less Time ผู้บริโภคสามารถเข้าสู่คอนเทนต์ได้ง่ายและรวดเร็ว ในทางกลับกันหมายความว่าผู้บริโภคมีเวลาเท่าเดิมในขณะที่คอนเทนต์มีจำนวนมากขึ้น แบรนด์จึงยิ่งต้องพยายามทำ Tailored Content ให้ตอบโจทย์ที่มีความจำเพาะของกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
- Hypertargeting – Super Audience Segmentation ในอีกนัยหนึ่งแปลว่าเราจะมีกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการที่เจาะจงมากยิ่งขึ้น
- E-commerce is Still a Hot Topic as Skyrocketing in Thailand นอกเหนือจากการเข้าถึงคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ผู้บริโภคยังสามารถจบการซื้อได้ง่ายด้วยปลายนิ้ว โดยมีระบบการขนส่งและการจ่ายเงินออนไลน์ที่รองรับ อีคอมเมิร์ซจึงมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นมากในไทย
- Mobile Payment is a New Norm of Thailand ต่อเนื่องจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซและเทคโนโลยีในยุคนี้ การทำธุรกรรมบนมือถือนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคยอมรับและคุ้นเคย ยิ่งเป็นตัวผลักดันและกระตุ้นให้เกิดการเติบโตของสื่อดิจิทัลในภาพรวม