ตลาดศัลยกรรมความงามไทยโตไม่หยุด 'เอเมด' ทุ่ม 50 ล้าน ผุดสาขาที่ 6 ในอาเซียน

“เอเมด คลินิก” ศูนย์ศัลยกรรมความงามและผิวพรรณครบวงจร ทุ่มงบ 50 ล้านบาท เจาะตลาดธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงามที่มีมูลค่ารวมกว่า 250,000 ล้านบาท รุกกลุ่มศัลยกรรมความงาม ชูจุดเด่นเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานและทันสมัยที่สุด ดันรายได้โต 20%

ศูนย์ศัลยกรรมความงามและผิวพรรณครบวงจร “เอเมด คลินิก” ทุ่ม 50 ล้านบาท เจาะตลาดธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงามที่มีมูลค่ารวมกว่า 250,000 ล้านบาท รุกกลุ่มศัลยกรรมความงาม เปิดสาขาที่ 4 ชูจุดเด่นเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานและทันสมัยที่สุด ชี้ผู้บริโภคอายุยิ่งมากยิ่งกล้าจ่ายเงินเพื่อความงาม พร้อมรีแบรนด์ใหม่ตอกย้ำผู้นำด้านนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์เฉพาะทาง ดันรายได้โต 20%

นายธีร์ธวัช แร่จั่น ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเมด อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป จำกัด ศูนย์ศัลยกรรมความงามและผิวพรรณครบวงจรมากว่า 10 ปี ภายใต้แบรนด์ “เอเมด คลินิก” เปิดเผยว่า ตลาดธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงามของประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 250,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตต่อเนื่อง 15-20% ทุกปี คิดเป็นสัดส่วนตลาดคลินิกความงามราว 30,000 ล้านบาท และโดยเฉพาะตลาดศัลยกรรมความงามที่มีมูลค่ากว่า  30,000 ล้านบาท และที่สำคัญมีอัตราเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี เพื่อเป็นการรองรับตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์เฉพาะทาง ล่าสุดบริษัทได้ใช้ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขาใหม่ “TC Green (ทีซี กรีน) พระราม 9” ขึ้นเป็นสาขาที่ 6 ในอาเซียน และเป็นสาขาที่ 4 ในไทย โดยมีพื้นที่การให้บริการรวมกว่า 1,000 ตร.ม. รองรับการให้บริการดูแลความงามและผิวพรรณ ตั้งแต่การให้คำปรึกษาด้านความงามและการศัลยกรรมตกแต่งที่ครบวงจร ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานตามหลักกระทรวงสาธารณสุขและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านดูแล ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ARTISTIC SURGERY AND BEAUTY  GALLERY” เจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้รับบริการที่ได้มาตรฐานและความปลอดภัยสูงเทียบเท่าโรงพยาบาลชั้นนำ  

“สาขาทีซี กรีน พระราม 9 ถือเป็นสาขาที่ทันสมัยที่สุดของไทยเวลานี้ ทั้งในเรื่องมาตรฐานการก่อสร้าง การจัดระบบดูแลสิ่งแวดล้อมภายในห้องผ่าตัด การตรวจวัดและควบคุมคุณภาพอากาศเพื่อป้องกันการติดเชื้อทางอากาศ อาทิ การติดตั้งระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ที่สามารถหมุนเวียนอากาศภายในห้องผ่าตัดได้จำนวนไม่น้อยกว่า 25 เท่าของปริมาตรห้องต่อชั่วโมง การจัดการระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้องเพื่อให้ราบเรียบหรือปั่นป่วนน้อยที่สุด นอกจากนี้แล้วเรายังมีระบบการวัดระดับฝุ่นละอองในอากาศเพื่อกำหนดระดับความสะอาดของห้องตามมาตรฐาน ISO 14644-1 อีกด้วย”

นายธีร์ธวัช กล่าวต่อว่า “เอเมด คลินิก” ศูนย์ศัลยกรรมความงามและผิวพรรณครบวงจร เปิดให้บริการมากว่า 10 ปี ล่าสุดได้ทำการรีแบรนด์ดิ้งใหม่ ด้วยการปรับดีไซน์โลโก้เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำด้านนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์เฉพาะทางเพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น  ปัจจุบันเปิดให้บริการในประเทศไทย 3 สาขา ได้แก่ สาขาสีลม ทองหล่อ และเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต โดยให้บริการด้านความงามและผิวพรรณครบวงจรทั้งในส่วนของใบหน้า ผิวพรรณ เส้นผม รูปร่างและสัดส่วน และได้ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ อาทิ ประเทศกัมพูชา ปัจจุบันมี 2 สาขา นอกจากนี้ยังนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามจากอเมริกาและยุโรปอีกด้วย 

สำหรับแผนการตลาด เอเมด คลินิก เน้นสร้างการรับรู้ตรงไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยที่ผ่านมาบริษัทใช้งบด้านการสื่อสารตลาดราว 15 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ไปกับช่องทางออนไลน์ 70 % และในส่วนของออฟไลน์ อาทิ การทำบัตรสมาชิก กิจกรรมคืนกำไรให้ลูกค้า อีก 30 %  ด้านผลประกอบในปีนี้คาดการณ์รายได้เติบโตจากปี 2561 ประมาณ 15-20%

“ที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าของเอเมดมีหลากหลายอาชีพ ทั้งดารา เน็ตไอดอลและเหล่าคนดัง เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเราเน้นตั้งแต่กลุ่มระดับC ไปจนถึง B+ เนื่องจากทรีทเม้นท์ ที่ให้บริการมีหลายราคา ขณะที่บริการด้านการศัลยกรรมของเอเมด เมื่อเทียบกับคู่แข่งในธุรกิจราคาเราค่อนข้างสูง แต่เป็นระดับราคาที่ตลาดและผู้บริโภคยอมรับได้ เพราะจากจุดเด่นของเราที่เน้นในเรื่องมาตรฐานการให้บริการ แพทย์และทีมมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมถึงอุปกรณที่ใช้ส่วนใหญ่เราใช้ของดีมีคุณภาพ อาทิ ซิลิโคน เป็นการนำเข้าจากอเมริกาและยุโรป และจากผลสำรวจพบว่ากลุ่มอายุ 55-64 ปี และกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป มีการใช้จ่ายเงินกับคลินิกเสริมความงามสูงขึ้น โดยมีอัตราเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 4,001-5,000 บาท และ 5,000 บาทขึ้นไป ตามลำดับ สาเหตุเพราะว่าเมื่ออายุมากขึ้นมีรายได้และความสามารถในการใช้จ่ายสูงขึ้น     ก็สามารถดูแลสุขภาพความงามได้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะเพศหญิงเมื่ออายุมากขึ้น ฮอร์โมนเพศหญิงลดลงและการเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ เช่น คอลลาเจนลดลง ผลที่ตามมาคือความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เสื่อมลงอย่างชัดเจน หรือบางรายหนังตาจะม้วนเข้าจนเกิดปัญหาขนตาขูดขีดกระจกตา เป็นต้น คลินิกเสริมความงามจึงเป็นทางเลือกที่มาช่วยแก้ไขปัญหาให้ ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการกับเอเมด สามารถแบ่งสัดส่วนได้ ดังนี้ คอร์สหัตถการ โปรแกรมเพื่อผิวกระจ่างใส (Aura Celebrity) จำนวน 34%  คอร์สปรับรูปหน้าด้วยโปรแกรม (Bo&Fat)  จำนวน 24%  และ คอร์สนวดกระชับสัดส่วน สลายไขมัน (Fit Firm Burn Fat) จำนวน 16%  ส่วนกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการศัลยกรรมเสริมความงามกับเอเมด สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งใช้บริการเสริมจมูก จำนวน 81.66%  รองลงมาดูดไขมัน จำนวน 11.66% และเสริมหน้าอก จำนวน 1.66%  นายธีร์ธวัช กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายให้เข้าใช้บริการ ในช่วงฉลองเปิดสาขาใหม่ล่าสุด กับ โปรโมชั่นสวยฟรี...ไม่มีอีกแล้ว สำหรับลูกค้าที่เข้ารับการบริการครั้งแรก สามารถเลือกรับบริการฟรี  1 รายการ  กับ 4 โปรแกรมยอดฮิต 1.Removal Program กำจัดขนใต้วงแขน หรือ กำจัดหนวด-เครา 2.Super Slim นวดกระชับต้นแขน ต้นแขน หรือหน้าท้อง  3.Aurabright program ทรีนเม้นท์ผิวหน้ากระจ่างใส ลดเลือนจดุด่างดำ 4.Smooth Clear ทรีทเม้นท์ผิวหน้าลดสิว ลดการระคายเคือง  ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.–31 ธ.ค.นี้