posttoday

50 ปี “ABAC” สู่การเป็น “World Class University”

25 พฤศจิกายน 2562

ยึดมั่นมาตลอด การมุ่งมั่นสร้างบุคลากรที่เพียบพร้อมด้วยความรู้ความสามารถ และจริยธรรม เพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาสังคม และประเทศ

 

มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เตรียมการรับเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่จะทรงเสด็จพระราชดำเนินมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.. 2562 เวลา 17.00 . ณ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ  เนื่องในโอกาสมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญครบรอบ 50 ปี โดยสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเข้าศึกษาหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต ณ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จนจบการศึกษาเมื่อปี พ.. 2543

 “Labor Omnia Vincit” หรือ “ความอุตสาหวิริยะ เป็นหนทางไปสู่ความสำเร็จ” คือ หนึ่งในปรัชญาสำคัญที่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค : ABAC) ยึดมั่นมาตลอด การมุ่งมั่นสร้างบุคลากรที่เพียบพร้อมด้วยความรู้ความสามารถ และจริยธรรม เพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาสังคม และประเทศ มายาวนานกว่า 5 ทศวรรษ ทำให้ “เอแบค” วันนี้ไม่ใช่แค่มหาวิทยาลัย แต่เป็นศูนย์กลางของการบ่มเพาะทางการศึกษาชั้นนำของไทย และก้าวไปสู่การเป็น World Class University ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ในฐานะสถาบันการศึกษาแห่ง Transition & Innovation ที่มีแนวคิดทันสมัย หลักสูตรการเรียนการสอนที่นำเทรนด์ ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

ทั้งนี้ ความรู้ และ คุณธรรม คือ สององค์ประกอบหลักที่ เอแบค เชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการเรียนรู้ ที่จะทำให้ บัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต จากรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ กลายเป็นบุคลากรคุณภาพ ที่สามารถประกอบวิชาชีพได้อย่างมั่นคง พร้อมกับรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต 

“การเป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับความไว้วางใจจากนักศึกษาทั้งชาวไทย และต่างชาติได้อย่างแท้จริง ต้องไม่หยุดพัฒนา”  ตลอด 50 ปีของ เอแบค จึงไม่เคยหยุดนิ่ง จากในยุคแรกที่เปิดสอนเฉพาะคณะบริหารธุรกิจ วันนี้เอแบคเปิดสอน ครบทุกสาขาวิชา ครอบคลุมทฤษฎีและการปฏิบัติ ทุกระะดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยแถวหน้าของไทยที่มีนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบ พร้อมกับประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้เรียนได้อย่างไม่เป็นรองภาคการศึกษาต่างชาติ

50 ปี “ABAC”  สู่การเป็น “World Class University”

เอแบคให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสนับสนุนการเรียนการสอนทั้งในและนอกห้องเรียน และนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาต่อยอดออกแบบการเรียนการสอนใหม่ๆให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเอแบคทั้ง 2 แห่ง ที่ตั้งอยู่ ที่ย่านหัวหมาก และวิทยาเขตสุวรรณภูมิ ถนนบางนา-ตราด กม. 26 มีการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เรียนในทุกระดับชั้นที่มีอยู่กว่า 15,000 คน สร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ได้ตลอดเวลา

อาทิ ห้องเรียนออนไลน์ e-learning ที่ผู้เรียนสามารถเรียนผ่านระบบออนไลน์ได้ตั้งแต่เริ่มต้นหลักสูตรจนถึงจบหลักสูตร โดยผู้เรียนสามารถพูดคุยสอบถามกับผู้สอนและเพื่อนร่วมชั้นเรียนได้อย่างเรียลไทม์ ร่วมถึงทบทวนบทเรียนย้อนหลังได้ตามต้องการ, หรือการทำระบบ E-Library ห้องสมุดออนไลน์ เพื่อนักศึกษาและ บุคลากรของมหาวิทยาลัย สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกแม่นยำมากขึ้น และในอนาคตคาดว่า E-Library ที่พัฒนาขึ้นมานี้ จะเป็นฐานข้อมูลสำคัญของประเทศและของโลก เพราะเอแบค พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับองค์ความรู้ให้แก่คนไทย โดยจะเปิดกว้างให้ทุกคนสามารถค้นคว้าวิจัย และใช้ข้อมูล อ่านหนังสือตำราทุกศาสตร์ได้ เพื่อได้นำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตัวเอง และประเทศได้ในทั้งมิติกว้างและลึกอย่างเหมาะสม

นอกจากมุ่งพัฒนาหลักสูตร และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้ผู้เรียนเข้าถึงการเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลาแล้ว การที่จะประสิทธิ์ประสาทให้แก่ผู้เรียนได้อย่างเต็มที่ “อาจารย์ผู้สอน” คือ หัวใจสำคัญ เพราะเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ ดังนั้น เอแบค จึงเน้นพัฒนาศักยภาพของอาจารย์ผู้สอนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทั้งในแง่ขององค์ความรู้ใหม่ๆ ตามเทรนด์โลก และสามารถถ่ายทอดความรู้นั่นๆ มาสู่ผู้เรียนได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

รวมถึงเพื่อให้ เอแบค เป็น สถาบันการศึกษา ที่ตอบโจทย์การเรียนรู้ สร้างผู้เรียนให้มีความสุข ค้นพบศักยภาพที่มีอยู่ในตนเอง พร้อมกับโลกการทำงานทำธุรกิจจริงๆ ทางมหาวิทยาลัย จึงมุ่งพัฒนา 3 ด้าน ประการแรกคือ by Design พัฒนาหลักสูตรการเรียนสอน เพื่อให้เป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ของนักศึกษา นักวิชาการ ฯลฯ ถัดมาคือ by Commitment โดยเน้นมุ่งสอนให้ทุกคนมีจริยธรรมเป็นคนดีของสังคม ส่วนสำคัญที่สามคือ by Innovation คือ ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้ามาช่วยยกระดับการเรียนการสอนให้สอดรับกับโลกาภิวัตน์

แน่นอนว่า ตลอด 50 ปีทีผ่านมา “เอแบค” ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในภาคการศึกษาทั้งในไทย และเวทีโลก แน่นอนว่า ความสำเร็จ ความภาคภูมิใจในการผลิตบุคลากรที่เป็นคนคุณภาพของสังคม เจ้าของธุรกิจที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจ ผู้นำองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีช่วยขับเคลื่อนสร้างให้ไทยเข้มแข็งเติบโต จะยิ่งเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป้าหมายหลัก และยิ่งใหญ่ ของสถาบันการศึกษาแห่งนี้ คือ การผลิตบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต ที่มีคุณภาพ คุณธรรม สามารถนำองค์ความรู้ไปสร้างประโยชน์ให้แก่ตัวเอง และสังคม ประเทศ รวมถึงในระดับเวทีโลกได้

สอบถามข้อมูล กรุณาติดต่อ สำนักงานบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ 

โทร 02-719-1929 อีเมล์ [email protected] เว็บไซต์ www.grad.au.edu 

50 ปี “ABAC”  สู่การเป็น “World Class University”