posttoday

'แกรนด์ แอสเสทฯ' ผนึก 'ซูมิโตโม' พัฒนาโครงการ HYDE Heritage Thonglor ตอบโจทย์ลักชัวรี่ไลฟ์สไตล์

15 พฤศจิกายน 2562

บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ อันดับ 1 ใน 5 ของประเทศญี่ปุ่น ร่วมลงนามในสัญญาระหว่างผู้บริหาร พัฒนาคอนโดมิเนียมระดับซูปเปอร์ลักชัวรี่ บนถนนสุขุมวิท โครง

บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ อันดับ 1 ใน 5 ของประเทศญี่ปุ่น ร่วมลงนามในสัญญาระหว่างผู้บริหาร พัฒนาคอนโดมิเนียมระดับซูปเปอร์ลักชัวรี่ บนถนนสุขุมวิท โครงการ "ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ"

นายอะซึฮิสะ โอกูระ กรรมการ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด กล่าวว่า บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี เป็นธุรกิจหลักในกลุ่มบริษัท Sumitomo Group ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 300 ปี มีธุรกิจที่กว้างขวาง ครอบคลุมตั้งแต่ ธุรกิจที่อยู่อาศัย วัสดุก่อสร้าง ธุรกิจป่าไม้ มีศูนย์วิจัยและโรงงาน รบวงจร

ปัจจุบัน Sumitomo Group มีบริษัทในเครือถึง 274 บริษัท ครอบคลุมไปถึง 16 ประเทศ บริษัทฯ เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ท็อป 5 ของประเทศญี่ปุ่น พัฒนาสิ่งปลูกสร้างมาแล้วกว่า 320,000 หลัง และเป็นเจ้าของพื้นที่ป่าไม้ ขนาด 48,000 เฮคเตอร์ หรือประมาณ 480 ล้านตารางเมตร เทียบเท่ากับพื้นที่ 1/800 ของที่ดินทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่น และ 212,000 เฮคเตอร์ หรือประมาณ 2,120 ล้านตารางเมตรในประเทศอินโดนิเซีย ปาปัวนิกินี และนิวซีแลนด์

นอกจากนั้น บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ท๊อป 5 ในออสเตรเลีย และท็อป 10 ในอเมริกา และในปี ค.ศ. 2041 บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลก โดยการสร้าง “W350 Tower The Skyscraper Center” ซึ่งจะเป็นโครงการที่ทำด้วยไม้สูงที่สุดในโลกถึง 70 ชั้นหรือความสูงที่ 350 เมตร ขนาด 455,000 ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นการจารึกประวัติศาสตร์ในวาระที่ Sumitomo Group ครบรอบ 350 ปี ตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งบริษัทฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1691 เป็นต้นมา

สำหรับในภูมิภาคเอเชีย ทางบริษัทฯ ได้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ระดับลักชัวรี่ ในประเทศจีน ฮ่องกง อินโดนิเซีย เวียดนาม รวมถึงประเทศไทยด้วย

จากประสบการณ์ของ Sumitomo Group ทั้งหมดที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ให้ความมั่นใจได้ว่า โครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” จะเป็นหนึ่งในโครงการที่ดีที่สุดในเมืองไทย เพราะเราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับมาตราฐานในการออกแบบ การก่อสร้าง วัสดุที่เลือกใช้ในโครงการ รวมไปถึงการคัดสรร การบริการฮอสพิทอลลิตี้ระดับโลก เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยใน โครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด

นายวิทวัส วิภากุล กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บริษัทฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับบริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ในการพัฒนา โครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” ได้ร่วมกันสร้างสรรค์พื้นที่ส่วนกลางแบบเต็มรูปแบบมากถึง 8 ชั้น 28 ฟังก์ชั่น ซึ่งมากกว่ามาตรฐานทั่วไป

ยกตัวอย่างเช่น Private Storage ที่โครงการมอบให้แก่ลูกค้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม ในครั้งนี้ทางบริษัทฯ มีความยินดีที่ทาง ซูมิโตโม ฟอเรสทรี มีวิสัยทัศน์ในคัดสรรบริษัทชั้นนำระดับโลกให้ เวเลอร์ ฮอสพิทอลลิตี้ พาร์ทเนอร์ส มาให้บริการแบบเอกซ์คลูซีฟให้แก่ผู้พักอาศัยทุกท่านที่ โครงการ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ

นายพีรพล นนทสูติ รองประธานฯ ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” เป็นคอนโดมิเนียมสูง 45 ชั้น บนพื้นที่ 2-2-18 ไร่ ติดถนนใหญ่บนสุขุมวิท ห่างจาก BTS ทองหล่อเพียง 250 เมตร มีจำนวน 311 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 6,000 ล้านบาท ราคายูนิตเริ่มต้นที่ 9.6 ล้านบาท ย่านทองหล่อนี้คนไทย และชาวต่างชาติ โดยโครงการเริ่มก่อสร้างไปเรียบร้อยแล้วเมื่อไตรมาส 1 ปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565

ด้าน นายดุลพันธุ์ อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เวเลอร์ ฮอสพิทอลลิตี้ พาร์ทเนอร์ส เอเซีย จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ มีความยินดีที่จะนำเอาบริการสุดพิเศษ มาสร้างประสบการณ์ให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ โดยเฉพาะ

โดยจุดเด่นของบริษัท คือ การบริหารโรงแรมและ เซอร์วิส เรสซิเดนส์ ในรูปแบบที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับสากล ทางทีมงานของเวเลอร์ มีความภาคภูมิใจที่จะส่งมอบบริการที่ดีที่สุด เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยโครงการไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ได้สัมผัสถึงความสมบูรณ์แบบของการอยู่อาศัย ในคอนเซ็ป Timeless Indulgence แบบเอกซ์คลูซีฟ โดยปัจจุบันเวเลอร์ได้สร้างสรรผลงานทั้งในการพัฒนาและบริหารโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์มาแล้วมากกว่า 150 แห่งหรือมากกว่า 60,000 ห้อง ทั่วโลกทั้งใน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ดูไบ และ เอเชียแปซิฟิก ตัวอย่างเช่น โรงแรมชั้นนำในเครือ Hilton, Marriott และ Intercontinental