posttoday

สิงห์ เอสเตท รวมพลังคนรักทะเลกว่า 2,000 คน ในงาน “#SeaYouTomorrowRUN วิ่งคืนคุณค่าสู่ทะเล”

15 พฤศจิกายน 2562

พร้อมมอบรายได้จากการสมัครวิ่งกว่า 1 ล้านบาทให้กับ 4 หน่วยงานเพื่อท้องทะเล

 

สิงห์ เอสเตท รวมพลังคนรักทะเลกว่า 2,000 คน ในงาน “#SeaYouTomorrowRUN วิ่งคืนคุณค่าสู่ทะเล” พร้อมมอบรายได้จากการสมัครวิ่งกว่า 1 ล้านบาทให้กับ 4 หน่วยงานเพื่อท้องทะเล

ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก มีเหตุการณ์ที่สัตว์น้ำหายาก เช่น วาฬนำร่อง เต่าทะเล รวมไปถึงพะยูนอย่างกรณีของมาเรียม ที่เสียชีวิตเนื่องจากผลของขยะพลาสติกในทะเลเป็นประจำ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งรายงานว่า ในช่วงปี 2560 มีสัตว์น้ำตายและบาดเจ็บเพราะปัญหาขยะพลาสติกในทะเลโดยตรงไม่ต่ำกว่า 129 ตัว

นอกจากปัญหาขยะในท้องทะเล จะส่งผลกระทบโดยตรงกับสัตว์น้ำแล้ว ระบบนิเวศในท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแนวปะการังเสื่อมโทรม อันตรายจากขยะมีคมหรือขยะมีพิษ มลภาวะใต้ท้องทะเลที่อาจจะเกิดขึ้น ปัญหาขยะในท้องทะเลที่ส่งผลกระทบในวงกว้างขึ้นทุกวัน ทั้งต่อสิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ คุณภาพชีวิตของคนในชุมชน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นความสำคัญ จึงริเริ่มโครงการ  “#SeaYouTomorrowRun วิ่งคืนคุณค่าสู่ทะเล” เพื่อสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจ รวมทั้งปลูกฝังจิตสำนึก ในการช่วยลดปัญหาและผลกระทบจากชุมชนเมืองที่ส่งผลต่อทรัพยากรทางทะเล

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานหลัก โดย นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า สำหรับงาน #SeaYouTomorrowRUN วิ่งคืนคุณค่าสู่ทะเล นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ต่อยอดจากโครงการ #SeaYouTomorrow ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ ซึ่งเป็นโครงการหลักในด้านการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของ สิงห์ เอสเตท

โดยการจัดงานครั้งนี้นอกจากเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนได้ดูแลสุขภาพตนเองผ่านกิจกรรมวิ่งแล้ว เรายังต้องการสอดแทรกองค์ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของขยะทะเลที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนร่วมใจกันลด ละ เลิก การสร้างขยะ โดยเฉพาะขยะพลาสติก โดยนับตั้งแต่มีการเปิดรับสมัครการแข่งขันวิ่งตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผลปรากฎว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมีผู้ลงสมัครมากกว่า 2,000 คน และมียอดเงินจากการลงสมัครวิ่งอยู่ที่ 1,165,800 บาท ซึ่งยอดเงินทั้งหมดนี้ทาง สิงห์ เอสเตท จะนำไปสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานที่ช่วยคืนคุณค่าสู่ทะเลทั้งหมด 4 หน่วยงาน ได้แก่

โรงพยาบาลเต่าทะเล ศูนย์อนุรักษ์พันธ์เต่าทะเลกองทัพเรือ สัตหีบ, กลุ่มจิตอาสา Sattahip Beach Defender, กลุ่มจิตอาสา Green Road และกลุ่มจิตอาสา Mahasamut Patrol

“#SeaYouTomorrowRun วิ่งคืนคุณค่าสู่ทะเล” เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และ สิงห์ เอสเตท จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่าน บริเวณศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ สัตหีบ”  นายนริศ กล่าว

สิงห์ เอสเตท รวมพลังคนรักทะเลกว่า 2,000 คน ในงาน “#SeaYouTomorrowRUN วิ่งคืนคุณค่าสู่ทะเล”

พลเรือตรี อุทัย ชีวะสุทธิ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กล่าวว่า “ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล มีภารกิจในการดูแลอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ให้คงอยู่คู่ท้องทะเลไทย ด้วยการเพาะฟักไข่เต่าทะเล และอนุบาลลูกเต่าทะเล จนกว่าจะมีความแข็งแรง แล้วจึงปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ นอกจากนี้ยังทำการดูแลรักษาเต่าทะเลที่เจ็บป่วย รวมทั้งให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจ การที่ สิงห์ เอสเตท เข้ามาร่วมรณรงค์ในการอนุรักษ์เต่าทะเล ถือเป็นโอกาสอันดีที่ 2 หน่วยงาน  ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อปลุกจิตสำนึกให้ตระหนักถึงปัญหาขยะ จากชุมชนลงไปสู่ท้องทะเล และขยายวงกว้างออกไปสู่กลุ่มคนเมืองผ่านกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกิจกรรม #SeaYouTomorrowRun วิ่งคืนคุณค่าสู่ทะเล รวมทั้งยังมีกิจกรรม Plogging หรือการวิ่งเก็บขยะ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะ และผลกระทบที่มีต่อระบบนิเวศในท้องทะเลไทย”

ด้านนางสาวมารีญา พูนเลิศลาภ มิสยูนิเวอร์สไทยแลนด์  2017 ซึ่งได้เข้าร่วมกิจกรรม Plogging Run พร้อมด้วยอาสาสมัครกว่า 200 คน มาร่วมวิ่งเก็บขยะบริเวณชายหาดสัตหีบ ซึ่งขยะที่เก็บได้จะถูกคัดแยกและส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์อีกครั้ง ได้แก่ ขยะพลาสติกทางกลุ่มจิตอาสา Green Road จะคัดแยกและนำไปทำเป็นบล็อกปูถนน ด้านกลุ่ม Sattahip Beach Defender จะคัดแยกขยะที่ใช้ได้เพื่อทำเป็น upcycling product ส่วนขยะที่เหลือและไม่สามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้จะถูกนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ณ โรงกำจัดขยะขนาดใหญ่ เทศบาลตำบลเขตอุดมศักดิ์ อำเภอสัตหีบที่ได้มาตรฐานทำให้ไม่มีขยะไหลเวียนกลับไปสู่ธรรมชาติอีก

นางสาวมารีญา กล่าวว่า  สำหรับงาน #SeaYouTomorrowRun เป็นงานวิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะว่าไม่ได้เป็นงานวิ่งธรรมดา มันเป็นการวิ่งแบบ Plogging ที่เราจะวิ่งไปด้วยเก็บขยะไปด้วย คิดว่าจะสามารถสร้างความรู้ให้กับคนที่มาร่วมงาน และจะทำให้เราคิดมากขึ้นว่าเมื่อเราใช้อะไรมันจะกลายเป็นขยะ เมื่อเรารู้แบบนี้ หรือคิดแบบนี้ได้ มันเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่นำไปสู้การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากตัวเราเอง และนำไปสู่การผนึกกำลังกับคนอื่นๆ ในการต่อสู้กับขยะในอนาคต

“น้ำคือบ้านของปลา สิ่งที่เราโยนออกไปในน้ำ ง่ายๆ คิดว่าโอเค ไม่มีปัญหาหรอก มันก็กลับไปอยู่ในบ้านของปลา สิ่งแวดล้อมคือเรื่องของวันนี้ เราต้องรู้ก่อนว่าปัญหาคืออะไร และเราต้องเป็นผู้บริโภคคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น การจะสร้างความเปลี่ยนแปลง ต้องหาแรงจูงใจ เราต้องเริ่มทำเองก่อน และพยายามบอกคนเรื่อยๆ ทุกคนที่เราเจอ ทุกคนที่เราคุย คนก็จะเริ่มทำตาม ถ้าเราทำจริงๆ และเราพูดถึงเรื่องบ่อยๆ คนรอบข้างจะรู้” มารีญา กล่าว

นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวทะเลมากมาย อาทิ นิทรรศการแสดงให้ความรู้เรื่องขยะทะเล รวมทั้งงานทอล์คให้ความรู้ อาทิ  ทอล์คหัวข้อ “คืนคุณค่าสู่ทะเล” โดยดร. ธรณ์ ธารงนาวาสวัสดิ์ และ“S talks เรื่องเล่าจากทะเล” โดยหน่วยงานที่ร่วมคืนคุณค่าสู่ทะเล ติดตามรายละเอียดกิจกรรมและข้อมูลดีๆ เพื่อท้องทะเลภายใต้การทำงานของ สิงห์ เอสเตท ได้อย่างต่อเนื่องที่ www.seayoutomorrow.org

สิงห์ เอสเตท รวมพลังคนรักทะเลกว่า 2,000 คน ในงาน “#SeaYouTomorrowRUN วิ่งคืนคุณค่าสู่ทะเล”