วิบากกรรมพิชญ์

เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับ นายพิชญ์ โพธารามิก และพวก กรณีสร้างราคาหุ้น บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO) และ บริษัท จัสมิน อินเทอร์เนชั่นแนล (JAS) โดยสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 160 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา พิชญ์ ได้ถูกก.ล.ต.ปรับเป็นจำนวนเงิน 60 ล้านบาท จนทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนอย่างหนัก จากผลกระทบรอบด้าน อาทิ ภาวะเศรษฐกิจไทยขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ การส่งออกที่ชะลอตัว และปัจจัยเสี่ยงในตลาดโลก ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์สิ้นเดือนธ.ค.2558 ปิดที่ระดับ 1,288.02 จุด ลดลง 14% จากเดือนธ.ค.2557

ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่การตัดสินใจเข้าพยุงราคาหุ้นไม่ให้ลดต่ำกว่าความเป็นจริง ถือเป็นการช่วยผู้ถือหุ้นรายย่อยในอีกทางหนึ่ง เพราะบางครั้งไม่ว่าหุ้นจะมีพื้นฐานที่ดีขนาดไหน แต่หากภาวะตลาดโดยรวมไม่เป็นใจ จะฉุดราคาหุ้นให้ต่ำลง จนอาจทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นได้ เจตนาและการกระทำเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์