เอ็ม บี เค พลิกวิกฤติเป็นโอกาสรับมือดิจิทัล ดิสรัปชั่นศูนย์การค้า

เอ็ม บี เค พลิกวิกฤติเป็นโอกาสวางกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้า รับมือดิจิทัล ดิสรัปชั่นศูนย์การค้า เดินหน้าเติมเต็มร้านอาหาร ชูความครบเครื่องเรื่องบริการ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบครัน ศูนย์กลางซ่อมมือถือทุกค่าย พร้อมปรับปรุงพื้นที่เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ รองรับแผนการดำเนินงานสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ปี 2563 ขยายเดอะไนน์ ติวานนท์ รองรับนักช้อปนนทบุรี และปทุมธานี

นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจโดยภาพรวมช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ยังขยายตัวได้ไม่รวดเร็ว เนื่องจากกำลังซื้อมีแนวโน้มถดถอยลง โดยเฉพาะกำลังซื้อระดับรากหญ้าที่ได้รับผลพวงจากราคาผลผลิตทางการเกษตร ในส่วนผลประกอบการ 7 เดือนแรกของปี 2562 เอ็ม บี เค มีรายได้อยู่ที่ 6,333 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจศูนย์การค้าเป็นสัดส่วนถึง 40 % ซึ่งบริษัทมีธุรกิจหลากหลายรวม 8 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วยธุรกิจศูนย์การค้า ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ธุรกิจกอล์ฟ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจการเงิน และธุรกิจอื่น ๆ

ศูนย์การค้าเป็นธุรกิจที่มีชีวิตชีวา โจทย์การทำธุรกิจจึงต้องทำให้คนที่เข้ามาจับจ่ายในศูนย์การค้ารู้สึกมีความสุขมีชีวิตชีวา ขณะเดียวกันเมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน สิ่งที่ต้องทำคือพาตัวเองไปอยู่ในใจผู้บริโภคให้มากที่สุด ซึ่งทุกศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค  ประกอบด้วยเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ พาราไดซ์ พาร์ค พาราไดซ์ เพลส และ เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 มีจุดแข็งอยู่ที่การสร้างความเชื่อมั่นในการเข้ามาใช้บริการ ทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อใจ ไว้วางใจ พร้อมการบริการด้วยใจ  

นายสุเวทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิตอล (Digital Disruption) ทำให้ธุรกิจศูนย์การค้าต้องปรับตัวอย่างมาก เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเอ็ม บี เค มุ่งมั่นในการนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิ้งใหม่ ๆ ทั้งสินค้าและบริการ โดยได้นำเทคโนโลยีเอไอปัญญาประดิษฐ์ (AI)  เข้ามาเก็บข้อมูลการเข้ามาใช้บริการในศูนย์ฯ และพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า เพื่อวางแผนทำการตลาดมอบประสบการณ์การ ช้อปปิ้งเหนือความคาดหมาย ครองใจลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ  

“สินค้าบางประเภทได้รับผลกระทบ จากการที่ผู้บริโภคหาซื้อผ่านออนไลน์ได้ แต่ก็ยังมีโอกาสเพราะสินค้า หรือบริการบางประเภทยังต้องเดินทางมาศูนย์การค้า อย่างธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ ภาพยนตร์ บริการนวดเพื่อสุขภาพ ร้านอาหาร ศูนย์การค้ายังคงเป็นจุดนัดพบของครอบครัว คู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือบริการรับซ่อมโทรศัพท์ก็ยังต้องเดินทางมาที่ศูนย์การค้า”

 ด้านนายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศูนย์การค้าโดยภาพรวมมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากดิจิทัล ดิสรัปชั่น แต่เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ มีความหลากหลายของลูกค้า โดยลูกค้าต่างชาติมีสัดส่วน 60 % ลูกค้าคนไทย 40 % ซึ่งพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้าต่างชาติตั้งใจเดินทางมาเที่ยวและจับจ่ายสินค้า รวมถึงรับประทานอาหาร ใช้บริการสปา จึงยังมีโอกาสเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้น โดยมุ่งขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ นักท่องเที่ยวจีน (แผ่นดินใหญ่) ฮ่องกง ไต้หวัน อินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อสูง อีกตลาดที่ให้ความสำคัญ คือ นักท่องเที่ยวยูเออี ซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยมเข้ามาใช้บริการสถานพยาบาลในประเทศไทย

นายสมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ มุ่งสร้างการรับรู้แบรนด์ให้ติดอันดับจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน โดยการศึกษาวิจัยพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเพื่อนำเสนอแคมเปญการตลาดที่ตรงใจและดึงดูดให้เข้ามาใช้บริการ รวมถึงการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน ทั้งสื่อออฟไลน์ สื่อนอกบ้าน และการสื่อสารผ่านช่องทางสื่อดิจิทัลที่ให้น้ำหนักมากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป ล่าสุดได้เปิดใช้งาน MBK Wechat Official  เพื่อใช้เป็นช่องทางสื่อสาร และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สินค้าและบริการ ไฮไลท์ร้านค้า สิทธิประโยชน์ต่างๆ  โปรโมชั่นแคมเปญเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนักท่องเที่ยวคนจีน

สำหรับแผนลงทุนจากนี้ถึงปี 2563 มุ่งปรับปรุงพื้นที่เพื่อรองรับแผนการดำเนินงานในการเพิ่มบริการใหม่ ๆ โดยเป็นความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เช่น พื้นที่จัดทำหนังสือเดินทางระหว่างประเทศ ( Passport ) และ  Co-Working Space ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์การลงทุนสร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อเดอะไนน์ ติวานนท์ คาดว่าจะเปิดให้บริการปลายปี 2563