posttoday

รพ.บำรุงราษฎร์แนะผู้ประสบอุบัติเหตุบริเวณใบหน้าอันตรายกว่าที่คิด

10 ตุลาคม 2562

จักษุแพทย์รพ.บำรุงราษฎร์แนะผู้ประสบอุบัติเหตุบริเวณใบหน้าหรือกระทบดวงตา อันตรายกว่าที่คิด ต้องรีบรักษาไม่ใช่เพียงแค่ศัลยกรรม

จักษุแพทย์รพ.บำรุงราษฎร์แนะผู้ประสบอุบัติเหตุบริเวณใบหน้าหรือกระทบดวงตา อันตรายกว่าที่คิด ต้องรีบรักษาไม่ใช่เพียงแค่ศัลยกรรม

นพ.ณัฐวุฒิ วะน้ำค้าง จักษุแพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างและระบบท่อน้ำตา ศูนย์จักษุ รพ.บำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากขึ้น นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญการและมีประสบการณ์ในการรักษา ทำให้การรักษาผู้ป่วยรายยากๆ ในปัจจุบันสามารถรักษาได้ เช่น หน้ายุบ เบ้าตาแตกทะลุ ตาหลุด เปลือกตาฉีกขาด จมูกหัก ขากรรไกรหัก หรือ อาจกระทบต่อระบบเส้นประสาทในสมอง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยเพียงรายเดียวที่ประสบอุบัติเหตุขั้นรุนแรง ซึ่งทุกส่วนบนใบหน้าล้วนมีความสำคัญและมีความละเอียดอ่อนในการรักษาเป็นอย่างมาก ความยากของการรักษาคือ การทำงาน (Function) ต่างๆ เช่น การมองเห็น การบดเคี้ยว ฯลฯ ที่ต้องทำให้ผู้ป่วยใช้งานได้ใกล้เคียงจากปกติและมีความสวยงามมากที่สุด

รพ.บำรุงราษฎร์แนะผู้ประสบอุบัติเหตุบริเวณใบหน้าอันตรายกว่าที่คิด

ทั้งนี้ วิธีการรักษาในอดีตจะแตกต่างจากในปัจจุบัน ในอดีตผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุและมีการเสียโฉมบนใบหน้า ส่วนใหญ่จะถูกส่งให้แผนกศัลยศาสตร์ทั่วไปเป็นแผนกที่ดูแลรักษาผู้ป่วยรายหนึ่งๆ หมดทั้งบนใบหน้า เนื่องจากในอดีตจักษุแพทย์รวมถึงแพทย์สาขาอื่นๆ ที่ศึกษาต่อขั้นสูงในด้านศัลยศาสตร์เฉพาะทางนั้น ยังมีไม่มากนัก ซึ่งการรักษาในปัจจุบันจะมุ่งเน้นการรักษาโดยมีทีมแพทย์ที่จบเฉพาะทางในแต่ละสาขาร่วมกันวินิจฉัยเป็นทีม และรักษาโรคตามความชำนาญการและประสบการณ์ของแพทย์รายนั้นๆสามารถแก้ไขปัญหาของอาการได้อย่างครอบคลุมและตรงจุด ส่งผลให้การรักษาในปัจจุบันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า การรักษาในปัจจุบัน กรณีที่พบผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุขั้นรุนแรง เบื้องต้นจะถูกส่งตรงมายังแผนกฉุกเฉินเป็นอันดับแรก และด้วยระบบมาตราฐานสากลของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ปณิธานในการทำงานที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหัวใจสำคัญ รวมถึงความพร้อมในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะได้รับการวินิจฉัยอาการต่างๆ ตามเวลาเทียบเท่ามาตราฐานระดับโลก และมีการประสานกับทีมแพทย์แผนกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการรักษาในห้องผ่าตัดพร้อมๆ

อย่างไรก็ตาม ในรายที่ได้รับกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ จะต้องมีทีมแพทย์เฉพาะทางชั้นสูง (Multi Specify) ประมาณ 4 – 6 สาขาวิชาชีพ เพื่อมาตรวจประเมิน วินิจฉัย และทำการรักษาผู้ป่วย ประกอบด้วย จักษุแพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างและระบบท่อน้ำตา, แพทย์ผู้ชำนาญการด้านโสต ศอ นาสิกวิทยา และจบเฉพาะทางสาขาวิชาโรคกล่องเสียง หลอดลม ศีรษะและคอ , ทันตแพทย์ที่จบเฉพาะด้านการผ่าตัดศัลยกรรมขากรรไกรและใบหน้า, ศัลยแพทย์ระบบประสาท, ศัลยแพทย์ตกแต่งและศัลยแพทย์ทั่วไป เป็นต้น ซึ่งนับเป็นข้อโดดเด่นของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่มีการทำงานที่เป็นระบบมาตราฐานสากล เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยครบครัน ทีมแพทย์ที่มีความชำนาญการชั้นสูงและมีประสบการณ์

นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า การรักษาผู้ป่วยในลักษณะดังกล่าว เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างมาก เนื่องจากแพทย์จะต้องดูทั้งในส่วนของการทำงานของอวัยวะต่างๆ เพื่อให้กลับสู่ภาวะใกล้เคียงปกติมากที่สุด ร่วมกับความสวยงามภายนอกควบคู่กันไป เช่น กรณีเบ้าตาแตก แพทย์จะต้องเช็คดูระบบข้างในด้วยว่า มีเลือดออกที่จอประสาทตาหรือไม่ มีภาวะความเสี่ยงอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่ ซึ่งต้องวิเคราะห์ร่วมกับแพทย์สาขาอื่นๆ หรือในกรณีที่ผู้ป่วยกระดูกขากรรไกรฉีกขาด แพทย์ก็ต้องรักษาเพื่อให้ฟันสบกันพอดี และสามารถกลับมาเคี้ยวอาหารได้เป็นปกติ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับเส้นประสาท เป็นต้น ซึ่งการรักษาต้องอาศัยความชำนาญการและประสบการณ์ของแพทย์อย่างมาก โดยทีมแพทย์ทุกสาขาต้องใส่ใจรายละเอียดในทุกๆ ขั้นตอน เพื่อให้ผลของการรักษาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

รพ.บำรุงราษฎร์แนะผู้ประสบอุบัติเหตุบริเวณใบหน้าอันตรายกว่าที่คิด