posttoday

อนาคต “JAS” เมื่อเป็น IPTV

23 กันยายน 2562

JAS ต้องเผชิญมรสุมอีกครั้ง เมื่อ “พิชญ์ โพธารามิก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดนกลต.ประกาศมาตรการลงโทษทางแพ่ง กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้นบริษัท จัสมิน

บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ JAS ต้องเผชิญมรสุมอีกครั้ง เมื่อ “พิชญ์ โพธารามิก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการบริษัท โดนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศมาตรการลงโทษทางแพ่ง กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้นบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) (JTS) เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา

พิชญ์ ตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งบริหารทันที มีผลเมื่อวันที่ 17 ก.ย. โดยหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เหตุผลว่าเป็นการดำเนินการตามหลักธรรมภิบาลที่ดี และในวันที่ 25 ก.ย.นี้ มีการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 โดยมีหลายวาระที่ชี้ชะตาอนาคตของ JAS

ธุรกิจของJAS อยู่ในช่วงของการเติบโต โดยในช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรกว่า 2,000 ล้านบาท จากรายได้รวม 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งในการประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 25 ก.ย. จะมีวาระสำคัญที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจของจัสมินฯในอนาคต ทั้งการเจรจาต่ออายุสัญญาเช่าโครงข่ายเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่จะสร้างรายได้กว่า 4 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2573 การต่อใบอนุญาตเป็นผู้ให้บริการกิจการโทรคมนาคม ประเภทที่ 3 รวมถึงกระบวนการจองซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตที่จะออกใหม่ด้วย

อย่างที่ทราบอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีการแข่งขันสูง เพราะมีคู่แข่งน้อยราย JAS พยายามเข้าเป็นคู่แข่งขันรายที่ 4 เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค JAS อยู่ในช่วงของการบุกตลาด IPTV ซึ่งเป็นธุรกิจที่เติบโตสูง โดยการจับมือกับ KT Corporation จากเกาหลีใต้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ หรือ 3BB ที่มีฐานลูกค้ากว่า 3.3 ล้านราย โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่า การจับมือของ JAS ร่วมกับ KT ครั้งนี้ถือเป็น step สำคัญในการกลายเป็น Telecom And Media & Entertainment

ในการประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 25 ก.ย. จะมีคำตอบว่า JAS จะเดินหน้าธุรกิจต่ออย่างไร เมื่อไร้เงาซีอีโอ ที่ชื่อ “พิชญ์ โพธารามิก” แต่อย่าลืมว่าเขายังคงสถานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ผลักดัน และสร้างองค์กรแห่งนี้ให้โลดแล่นอยู่ในวงการโทรคมนาคมไทยมากว่า 15 ปี เขาคงจะไม่ยอมให้สะดุดง่ายๆ และผู้ที่จะก้าวมาเป็นผู้บริหารคนใหม่จะต้องผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีเช่นกัน เพื่อยืนหยัดต่อสู้ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยต่อไป