posttoday

“พิธาน องค์โฆษิต” ซื้อหุ้น 75% “มอส เบอร์เกอร์”

18 กรกฎาคม 2562

ทุ่ม 200 ล้าน ปรับกลยุทธ์การตลาด ลุยขยายสาขาเพิ่ม พร้อมบุก Online Delivery ตั้งเป้ายอดขายโต 500 ล้าน ใน 4 ปี

ทุ่ม 200 ล้าน ปรับกลยุทธ์การตลาด ลุยขยายสาขาเพิ่ม พร้อมบุก Online Delivery ตั้งเป้ายอดขายโต 500 ล้าน ใน 4 ปี

นายพิธาน องค์โฆษิต ประธานบริษัท มอส ฟูดส์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวว่ามอส เบอร์เกอร์ (Mos Burger) เป็นแบรนด์ร้านอาหารฟาส์ต์ฟู้ดชั้นนำที่ประสบความสำเร็จอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น และยังประสบความสำเร็จในอีกหลาย ๆ ประเทศ โดยในปัจจุบันได้ขยายสาขาไปในประเทศต่าง ๆ ได้แก่ จีน เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และไทย

สำหรับประเทศไทย มอส เบอร์เกอร์ ได้เข้ามาเปิดตัวครั้งแรกที่เซ็นทรัล เวิลด์ ในปี2550 ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับที่ดีพอสมควร อย่างไรก็ตาม การร่วมธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์มอส เบอร์เกอร์เพิ่มขึ้น

สำหรับการร่วมทุนครั้งนี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของมอสเบอร์เกอร์ ในประเทศไทย จากเดิมที่มีบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท มอส ฟูดส์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด และ
มีทุนจดทะเบียน 6 ล้าน เปลี่ยนเป็น นายพิธาน องค์โฆษิต เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 75% และมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 200 ล้านบาท

นายพิธาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้ามาถือหุ้นใหญ่ของตนในครั้งนี้จะมาเสริมความแข็งแกร่งในด้านการตลาดและการบริหารงาน โดยแผนการตลาดในปีนี้ จะมีการขยายสาขาเพิ่มจำนวน 6 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 8 สาขาในกรุงเทพฯ ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ แฟชั่นไอส์แลนด์ เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า สุขุมวิท เซ็นทรัลพลาซ่า บางนา เซ็นทรัล พระราม 3 เอ็มโพเรียม ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และเทอมินอล 21 (
อโศก)

นอกจากนี้ยังวางเป้าหมายที่จะขยายสาขาเพิ่มอีกปีละ 9 สาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ยังได้ปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยเน้นการทำออนไลน์ ดิลิเวอรี่ ซึ่งจะมีการทำโปรโมชั่นร่วมกับผู้ให้บริการดิลิเวอรี่ต่าง ๆ และจัดทำโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดอื่นๆเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย 500 ล้านบาทใน 4 ปี

“พิธาน องค์โฆษิต” ซื้อหุ้น 75% “มอส เบอร์เกอร์”

“มอส เบอร์เกอร์ เป็นธุรกิจที่น่าจับตามองและมีโอกาสที่สามารถเติบโตได้เนื่องจากแบรนด์มีจุดแข็งในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพอาหารและรสชาติที่เป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ซึ่งตรงกับความชอบของคนไทยที่ชื่นชอบรสชาติของอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้ว เมื่อนำกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะกับคนไทยเข้ามาเสริมมอสเบอร์เกอร์ ก็จะสามารถเติบโตและกลายเป็นคู่แข่งลำดับต้น ๆ ในตลาดอาหารฟาสต์ฟู้ดในประเทศไทยได้ในอนาคต ซึ่งสิ่งที่เราจะนำเข้าไปเสริมจะเป็นในเรื่องของการบริหารการจัดการ และช่วยคิดเมนูใหม่ ๆ เพื่อให้ตรงตามความต้องการของคนไทย สำหรับมอส เบอร์เกอร์ ญี่ปุ่น ยังคงดูแลในเรื่องของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ทั้งคุณภาพอาหารและวัตถุดิบยังคงเป็นไปตามมาตรฐานของแบรนด์ดังเดิม” นายพิธาน กล่าว

นอกจากนี้ มอส เบอร์เกอร์ ยังได้เปิดตัวเมนูใหม่ล่าสุด “ฟูจิยามะ เบอร์เกอร์” (Fujiyama Burger) เบอร์เกอร์สุกี้เนื้อและไข่ออนเซ็น ต้นตำรับความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ในราคา 109 บาท ซึ่งเป็นการตอกย้ำเอกลักษณ์ของแบรนด์มอสเบอร์เกอร์ ที่เน้นรสชาติความเป็นญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใคร และคุณภาพอาหารที่พิถีพิถันในการผลิตทุกเมนู