มธ.ลงนามMOUร่วมเอกชนพัฒนารถไฟฟ้าCar Sharing
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ลงนาม MOU ร่วม 4 บริษัทพัฒนา “รถไฟฟ้า Car Sharing” ขับเคลื่อนโครงการ Thammasat Smart City
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ลงนาม MOU ร่วม 4 บริษัทพัฒนา “รถไฟฟ้า Car Sharing” ขับเคลื่อนโครงการ Thammasat Smart City
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดพิธีลงนามเพื่อบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือ 5 ฝ่ายเพื่อส่งเสริม “รถไฟฟ้า Car Sharing” โดย ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต พร้อมผู้บริหาร 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด, บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเซีย) จำกัด และ บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด ณ ห้องประชุมสัญญา ธรรมศักดิ์ ตึกโดม ชั้น 2 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต มธ. เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีเป้าหมายการพัฒนาสู่ Thammasat Smart City โดยนำระบบเทคโนโลยีมาสร้างคุณภาพชีวิตและสภาพแวดล้อมที่ดีภายในมหาวิทยาลัย โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับภาคเอกชน ริเริ่มนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car (Electric Vehicle) มาใช้งาน พร้อมระบบเช่าระยะสั้นหรือ Car Sharing ผ่านแอปพลิเคชันและสถานีชาร์จไฟฟ้าทั้งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และท่าพระจันทร์ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณรถยนต์ส่วนตัว ลดการใช้พลังงานและลดมลพิษภายในมหาวิทยาลัย
“MOU ฉบับนี้เป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ 4 บริษัทชั้นนำผู้สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า การพัฒนาระบบ Car Sharing เทคโนโลยีอุปกรณ์ต่างๆ ประกันภัยและการดูแลรักษา เพื่อให้คณาจารย์ นักศึกษา บุคลากร ได้ทดลองใช้เดินทางระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และ ท่าพระจันทร์เป็นเวลา 1 ปี”
มหาวิทยาลัยจะสนับสนุนพื้นที่จอดรถและสถานีชาร์จไฟฟ้าจำนวน 2 แห่ง พร้อมรวบรวมข้อมูลการขับขี่ สภาพจราจร คุณภาพการใช้บริการเพื่อนำไปวิเคราะห์ประเมินผลและวิจัยให้โครงการมีประสิทธิภาพและยั่งยืน หากประสบผลสำเร็จก็อาจนำรถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า (EV Motorcycle) มาให้บริการแบบ Car Sharing รวมถึงการพัฒนาติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้สำหรับการชาร์จรถไฟฟ้าต่อไป
“ปัจจุบันปัญหาโลกร้อนทวีความรุนแรงขึ้นต้นเหตุหนึ่งคือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของรถยนต์ เราจึงส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้า EV Car ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด และ MOU ฉบับนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญไม่เพียงสนับสนุน Thammasat Smart City แต่ยังช่วยเหลือโลกของเรา สร้างความตระหนักรู้แก่บุคลากรและนักศึกษาให้ความสำคัญของสภาพแวดล้อมอีกด้วย”
นายโตชิฮิเดะ อาโนะ ประธาน บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ยินดีสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Hyundai จำนวน 2 คัน ให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ทดลองใช้งานพร้อมประกันภัยชั้น 1 และสนับสนุนข้อมูลการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการวิจัยของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“รถไฟฟ้าที่บริษัทฯ มอบให้ทดลองใช้เป็นรุ่น ไอออนิก (IONIQ) มีลักษณะการออกแบบให้เป็นรถยนต์แห่งอนาคต ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 100% การชาร์จแบตเตอรี่เต็มที่สามารถวิ่งได้ระยะทาง 280 กิโลเมตร ซึ่งบริษัทมีความภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้มีส่วนร่วมในสนับสนุนโครงการ Thammasat Smart City ในครั้งนี้”
นายกฤษฏิ์ วิชัยวัฒนาพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด ผู้พัฒนาบริการระบบ Car Sharing ผ่านแอปพลิเคชัน HAUPCAR กล่าวว่า บริษัทฯ ร่วมสนับสนุนระบบบริการผ่าน HAUPCAR Application ทำให้ผู้ใช้มีความสะดวกรวดเร็ว ทั้งบริการจองรถ การรับรถ การชำระเงิน บันทึกข้อมูลการเดินทางและดูแลความสะอาดรถให้ตลอดโครงการ
“การใช้รถยนต์ไฟฟ้าผ่านระบบ Car Sharing ของ HAUPCAR นอกจากทำให้ผู้ใช้งานลดค่าใช้จ่ายลงแล้ว ยังช่วยลดปริมาณมลพิษและเราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เมืองนี้สวยงามยิ่งขึ้น”
นายธนานันต์ กาญจนคูหา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเซีย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า FOMM ในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทฯ ยินดีสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า FOMM จำนวน 2 คัน พร้อมประกันภัยชั้น 1 เพื่อให้เกิดแนวทางมหาวิทยาลัยยั่งยืนและ Thammasat Smart City ต่อไป
“รถยนต์ไฟฟ้า FOMM เป็นนวัตกรรมการประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพ เมื่อชาร์จไฟฟ้าเต็มที่สามารถขับได้ระยะทางถึง 166 กิโลเมตร ประกอบกับโครงสร้างขนาดเล็กสะดวกเหมาะสำหรับใช้สัญจรในเมือง โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่จอดรถจำกัด”
นายพูนพัฒน์ โลหารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า กล่าวว่า บริษัทฯ ยินดีสนับสนุนการติดตั้งสถานีชาร์ตพลังงานไฟฟ้า 2 จุด ณ ที่จอดรถหน้าตึกโดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 1 จุด และที่จอดรถอาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อีก 1 จุด พร้อมกับอุปกรณ์ การบำรุงรักษา เพื่อให้สถานีชาร์จไฟฟ้าพร้อมใช้งานตลอดเวลา โดยจะบันทึกข้อมูลการใช้พลังงานเพื่อให้มหาวิทยาลัยนำไปวิจัยและพัฒนาต่อไป
“MOU ครั้งนี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบริษัท ที่จะได้มีส่วนร่วมสร้างการตระหนักรับรู้ถึงการลดการใช้พลังงานโดยเฉพาะในสถาบันการศึกษา สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จที่จะสามารถต่อยอดไปในภาคส่วนอื่นๆ ต่อไป”