posttoday

STGT ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจถุงมือยาง ด้วยความสำเร็จของการควบรวมกิจการ

03 เมษายน 2562

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (“STA”) ประกาศแจ้งการควบบริษัทระหว่าง ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (“STGT”)

 

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (“STA”) ประกาศแจ้งการควบบริษัทระหว่าง ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (“STGT”) และ บริษัท ไทยกอง จำกัด (มหาชน) (“TK”) ที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้น ซึ่งบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัทมีชื่อว่า บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)”  ทำให้ ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโรงงานผลิตถุงมือยางธรรมชาติ และถุงมือยางสังเคราะห์ ทั้งสำหรับการบริโภคในทางการแพทย์และในเชิงไลฟ์สไตล์ จำนวน 5 โรงงาน ใน 3 จังหวัดทางภาคใต้ของไทย ได้แก่ จ.สงขลา จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ตรัง โดยมีกำลังการผลิตถุงมือยางทั้งสิ้นราว 21,200 ล้านชิ้นต่อปี นับได้ว่าเป็นกำลังการผลิตที่สูงที่สุดในประเทศไทย และถือเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตถุงมือยางที่ใช้ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทดังกล่าว ยังคงอัตลักษณ์และบ่งบอกถึงสถานะการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทศรีตรัง ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในโลก (The World’s Leading Fully Integrated Green Rubber Company)

STGT ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจถุงมือยาง ด้วยความสำเร็จของการควบรวมกิจการ

นายวีรสิทธิ์  สินเจริญกุล กรรมการ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “กลุ่มบริษัทศรีตรังมีความรู้สึกยินดีต่อการควบรวมบริษัทในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ถือเป็นก้าวย่างสำคัญในการเพิ่มกำลังการผลิตที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการถุงมือยางของโลกได้มากขึ้นจากเดิมที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่17,200 ล้านชิ้นต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 21,200 ล้านชิ้นต่อปี และสิ้นปี 2562 นี้ คาดว่าจะสามารถผลิตได้ถึง 23,000 ล้านชิ้นต่อปี โดย ณ ปัจจุบันเราสามารถขยายฐานลูกค้าถุงมือยางได้มากกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้บริษัทศรีตรังโกลฟส์ฯ จะยังคงยึดแนวทางการบริหารและวิสัยทัศน์ด้านการส่งมอบการ “ปกป้องทุกสัมผัส ด้วยความห่วงใย” สู่ทุกชีวิตทั่วโลกต่อไป (To deliver the “Touch Of Life” on a global scale)”