เปิดตัว “IPG Mediabrands Thrive” เป็น Exclusive Agency ให้ “เนสท์เล่”
เปิดตัว “IPG Mediabrands Thrive” เป็น Agency หน่วยงานที่ 5 ของ IPG และเป็น Exclusive Agency ที่จะทำงานร่วมกันกับ “เนสท์เล่” เป็นการเฉพาะ พร้อมยกมาตรฐานการวางแผนการสื่อสารการตลาดในประเทศไทย
IPG Mediabrands Thailand เปิดตัว “IPG Mediabrands Thrive” เป็น Agency หน่วยงานที่ 5 ของ IPG และเป็น Exclusive Agency ที่จะทำงานร่วมกันกับ “เนสท์เล่” เป็นการเฉพาะ พร้อมยกมาตรฐานการวางแผนการสื่อสารการตลาดในประเทศไทย ด้วยการผสมผสานระหว่างศาสตร์ของการใช้ข้อมูล (Data Analytic) และการใช้ศิลปะทางการสื่อสาร (Creativity) เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่สามารถคาดการณ์ และวัดผลการดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม
ดร.ธราภุช จารุวัฒนะ Group CEO IPG Mediabrands Thailand กล่าวว่า Thrive เริ่มต้นก่อตั้งครั้งแรกที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะขยายไปทั่วโลกถึง 8 แห่งรวมทั้งในประเทศไทยเพื่อรับงานของกลุ่มเนสท์เล่ โดย IPG Mediabrands Thrive มุ่งสู่การเป็นสิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอด้วยวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ที่สามารถสร้างการขับเคลื่อนให้กับแบรนด์ ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการวางแผนการสื่อสารที่ดีกว่า การให้ความสำคัญในการสร้างสรรค์เนื้อหา (Content Creation) และการวางสื่อที่ลึกกว่าที่ไม่ใช่แค่เวลาที่เหมาะสมเท่านั้น แต่เป็นการมองหาช่วงเวลาที่เหมาะสมกับความรู้สึก และอารมณ์ที่ถูกต้องของผู้บริโภค (Moment that Matter) เพื่อการเข้าถึงที่ไร้รอยต่อระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคที่ดีกว่า ผ่านนิยามที่เรียกว่า “BETTER SCIENCE, BETTER ART, BETTER OUTCOMES”
Better Science ด้วยศาสตร์ของการวิเคราะห์ data ที่ดีกว่า The Business Analytics Engine (BAE) คือ รูปแบบการใช้ข้อมูลจากหลากหลายมิติเพื่อเป็นแกนกลางในการพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารในภาพรวม ด้วยการสร้างรูปแบบการทำงานที่สามารถคาดการณ์ถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในการวางแผนธุรกิจด้วยข้อมูลเชิงลึกแบบ Real-Time ซึ่งแหล่งที่มาของข้อมูลทั้งจากฝั่งลูกค้าและจากการศึกษาภายใน ทำให้เราสามารถเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงทั้งในเรื่องของประชากรศาสตร์ พฤติกรรมศาสตร์ ทัศนคติการเปิดรับสื่อ พฤติกรรมการจับจ่าย เมื่อนำมาประกอบกับเครื่องมือในการวิเคราะห์ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของทาง IPG Mediabrands เพื่อหากลุ่มเป้าหมาย และพฤติกรรมที่แท้จริงของผู้บริโภค (High Value Audience) ที่จะทำให้เราสามารถสร้างรูปแบบการสื่อสารที่แม่นยำและเข้าใจผู้บริโภคได้ตั้งแต่ขั้นตอนการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย การกำหนดจุดมุ่งหมายของแต่ละแคมเปญ การวางแผนการสื่อสารไปจนถึงการลงมือทำและวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
Better Art ศิลปะการสื่อสารที่ใช้ประสบการณ์และการวิเคราะห์ เพื่อให้เข้าใจถึงช่วงเวลา ความรู้สึก และอารมณ์ของผู้บริโภค (Moment that Matter) ทั้ง Persuasion Moment คือ ช่วงเวลาที่แบรนด์สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างมีความหมายลึกซึ้ง และ Precision Moment คือ ช่วงเวลาที่แบรนด์สามารถกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคให้สนใจในสินค้า ยกตัวอย่างการโฆษณากาแฟอุ่นๆ ในตอนเช้าสามารถสร้างอารมณ์ให้กับผู้บริโภคได้มากกว่าการโฆษณากาแฟในตอนบ่าย ทั้งนี้ Better Art ยังสร้างสรรค์งานที่มีความแปลกใหม่เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคด้วยการวิเคราะห์แบบ 4 มิติ คือ วิเคราะห์ประสิทธิภาพของสื่อนั้นๆ มองหาความเหมาะสมของสื่อ รูปแบบของโฆษณาที่เหมาะสม และเนื้อหาที่เหมาะสม
ส่วน Better Outcome คือการทำงานร่วมกันกับเนสท์เล่ในฐานะ Partner เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ดร.ธราภุช กล่าวในตอนท้ายว่า สัญญาที่ทาง Thrive ทำกับเนสท์เล่ มีระยะเวลา 3 ปี ซึ่งก็หวังว่าด้วยบริการที่ดี และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจะทำให้มีการต่อสัญญาไปเรื่อยๆ ในทุกๆ 3 ปี อย่างยาวนาน
นายสันต์ เดโชดมพันธ์ Managing Director IPG Mediabrands Thrive ธุรกิจโฆษณาเริ่มฟื้นตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2018 ฉะนั้นถ้าการเมืองนิ่งๆ ก็คาดว่าในปีนี้ก็คงจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้โฆษณาในบางกลุ่มยังไม่โต แต่เมื่อมีนวัตกรรมหรือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ก็จะมีการใช้งบโฆษณาเพิ่มขึ้น อย่างเนสท์กาแฟของเนสท์เล่ เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีก็จะมีเนสท์กาแฟก็จะมีนวัตกรรม หรือแคมเปญที่ทำกับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ทำให้เห็นว่าเนสท์กาแฟยังคงเป็นผู้นำตลาด
“หลังจากที่ทำข้อตกลงกับเนสท์เล่แล้ว Thrive ต้องใช้เวลา 2 เดือนเพื่อทำงาน 30 Plan เพื่อ Launch ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยใช้ทีมงานราว 30 คน และทีม Support รวมทั้งสิ้นประมาณ 280 คน โดย Thrive ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ในเอเซียแปซิฟิค ต่อจากประเทศออสเตรเลียที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับงานให้กับกลุ่มเนสท์เล่โดยเฉพาะ เราทำงานร่วมกันแบบ Partner ไม่ใช่การทำงานแบบลูกค้ากับ Agency โดย Thrive มีเป้าหมายที่จะรับงานจากกลุ่มเนสท์เล่ทั่วโลก เพราะถือว่าเป็นธุรกิจที่มี Potential สูง และเหมาะที่ทำงานร่วมกันกับ Thrive ในรูปแบบของ BETTER SCIENCE, BETTER ART, BETTER OUTCOMES ได้อย่างชัดเจน” นายสันต์ กล่าวในตอนท้าย