เขมจิรา รักถาวร แบ่งปันช่วยสร้างสังคมเจริญมั่นคง

โดย...มัฆวาน วรรณกุล

ไทยเป็นประเทศที่เกษตรกรรมอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก การยกระดับอาหารไทยสู่ครัวโลกเป็นไปได้ไม่ยาก หากภาครัฐเดินหน้าขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ทางภาคเอกชนก็พร้อมตอบสนองนโยบายทันที เนื่องจากทำให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกอาหารทั้งรูปแบบอาหารสดและแปรรูป

เขมจิรา รักถาวร เจ้าของบริษัท บอง อินเตอร์ฟู้ดส์ ผู้ผลิตส่งออกปลาร้าปรุงสุกแบรนด์ "บองนัว" เป็นอีกหนึ่ง นักธุรกิจสาวสายเลือดอีสานสายพันธุ์ข้าวเหนียวที่มองเห็นโอกาสเป็นไปได้ที่ไทยสามารถผลิตอาหารสู่ครัวโลกได้ไม่ยาก เพราะทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ปลูกพืชอะไรก็ได้ตลอดฤดูกาล หลังจากพลิกผันชีวิตจากอาชีพข้าราชการหันมาเป็นนักธุรกิจตั้งบริษัท T.A.C. Accounting T.A.C. Legal & Associate ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ดูแลด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้บริการรับทำ บัญชี งานกฎหมาย ธุรกิจให้บริการตรวจสอบซื้อขายที่ดิน จนประสบความสำเร็จกลายเป็นเศรษฐินีสาวรวยพันล้านบาท

หลังจากนั้นหันไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตปลาร้าปรุงสุก แบรนด์ "บองนัว" ปลาร้าไทยสู่ครัวโลกที่บ้านเกิด จ.ชัยภูมิ จนประสบความสำเร็จไม่แพ้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกลยุทธ์การบริหารประสบความสำเร็จ เขมจิรา บอกว่า ต้องมีความคิดที่แตกต่างจากของนักธุรกิจคนอื่นคือ "เรื่องความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ โดยไม่ถือจังหวะฉวยโอกาสกับประชาชนและผู้ที่กำลังเดือดร้อน เมื่อธุรกิจประสบความสำเร็จแล้วต้องตอบแทนกำไรกลับสู่สังคม ผู้ด้อยโอกาส เมื่อมีโอกาสทำ"

"สร้างโรงงานผลิตแบรนด์บองนัวขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ในสิ่งที่เราเองต้องการคืนสู่สังคมให้เกิดการสร้างงาน การสร้างรายได้ให้ครอบครัวและคนในชุมชนท้องถิ่น ชาวบ้านได้ทำงานที่บ้านเกิด ใกล้ครอบครัวใกล้คนที่รัก ไม่ต้องไปหางานต่างจังหวัดหรือที่กรุงเทพมหานครซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทำให้พนักงานหลายคนที่นี่ย้ายกลับมาทำงานยังบ้านเกิด ครอบครัวอบอุ่น ได้ดูแลพ่อแม่ครอบครัวอย่างใกล้ชิด มันเป็นความภูมิใจที่เราได้เห็นครอบครัวของพวกเขามีความสุข และเป็นการสร้างรายได้ เศรษฐกิจให้ชุมชน" เขมจิรา กล่าว

เป้าหมายของ "บอง อินเตอร์ฟู้ดส์" ถือว่าเป็นผู้ผลิต สินค้าชุมชน เป็นแบรนด์ชุมชน แบรนด์ของคนอีสานที่ตั้งใจทำให้คนทั่วโลกได้ลิ้มรสความแซ่บนัวของปลาร้า สะอาด อนามัย ส่งออกไปสู่ตลาดทั่วโลก และช่วยสร้างชุมชนให้แข็งแกร่ง เป็นศูนย์รวมเพื่อการพัฒนาศึกษาสินค้าเกษตรให้หลากหลาย เข้าถึงกลุ่มเกษตร พัฒนาสินค้าที่มีให้เกิดมูลค่า ชุมชนมีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คุณภาพอาหารที่ผลิตต้องได้คุณภาพ ความสะอาดมาตรฐานสากล ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้า

"ปลาร้า" ถือเป็นหัวใจหลักของอาหารอีสานที่ช่วยชูรสให้มีความอร่อยกลมกล่อม โดยเมนูอาหารอีสานที่มักมีปลาร้าเป็นส่วนผสมคือ ส้มตำ ต้มแซ่บ แกงเห็ด แกงเปรอะ น้ำพริกปลาร้า รวมถึงเมนูอ่อมต่างๆ ซึ่งแต่ละเมนูมีรสชาติแซ่บจัดจ้าน บวกกับความหอมของปลาร้าต้มสุก ก็ยิ่งทวีความน่ารับประทานเพิ่มขึ้นไปอีก จึงไม่แปลกที่คนอีสานขาดไม่ได้ เปรียบเป็นเส้นเลือดสายหนึ่งเลยทีเดียว

"ปัจจุบันมีลูกค้าตามร้านค้าส้มตำทั่วประเทศ รวมทั้งขณะนี้ในต่างประเทศอีกหลายประเทศ ติดต่อเข้ามาสั่งซื้อกันเป็นจำนวนมากจนผลิตไม่ทัน จึงสร้างโรงงานแหล่งผลิตปลาร้าที่ จ.ชัยภูมิ ต้องมีคุณภาพทุกขั้นตอนเพื่อรองรับตลาด และถือเป็นการขยายฐานนำไปสู่การจ้างงานจ้างคนในพื้นที่ให้ได้มีงานทำ มีอาชีพที่ยั่งยืนตามมาในอนาคตได้มากขึ้น"

เมื่อประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจและยกฐานะครอบครัวจนมีฐานะขั้นเศรษฐินีพันล้านแล้ว สิ่งหนึ่งที่ เขมจิรา มองสังคมที่อยู่เบื้องหลังเมื่อมีโอกาสตอบแทนสังคมจะตอบแทนสังคมทันที เพราะการช่วยเหลือสังคมเป็นวิธีการสร้างสังคมที่เจริญได้เหมือนการให้เบ็ดไปตกปลา เมื่อมีบ่อปลา แค่ให้เขามีเบ็ด แต่ไม่ใช่เอาปลาไปให้เขา ทำให้เขาจะไม่รู้ถึงความอดทน ความพยายาม

"กิจกรรมช่วยเหลือสังคมที่ผ่านมามีมากมายเมื่อมีโอกาส เช่น กิจกรรมที่ตอบแทนสังคม บริจาคผ้าห่ม ยาสามัญให้ผู้สูงอายุ จัดทำโรงทานอาหารให้กับญาติผู้ป่วยในโรงพยาบาล และส่งมอบเป็นทุนการศึกษาให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนในเขตการศึกษาพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และสุราษฎร์ธานี ตลอดทั้งการมอบอุปกรณ์กีฬาให้โรงเรียนในเขตภาคอีสาน จนถึงภาคใต้ จ.นราธิวาส อีกด้วย รวมทั้ง ทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้านสาธารณประโยชน์ด้วยความที่มีจิตใจแบ่งปันสำนึกในถิ่นฐานรักบ้านเกิด โดยสะท้อนให้ ทั่วโลกเห็นถึงความเป็นไทยอย่างแท้จริง" เขมจิรา กล่าว