posttoday

การปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์)

25 มีนาคม 2562

จากการลงพื้นที่ตรวจราชการของ กระทรวงการคลัง การตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์)

 

นายลวรณ  แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจราชการของ กระทรวงการคลัง การตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) และการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบประจำกรุงเทพมหานครและประจำจังหวัด พบว่าประชาชนจำนวนมากยังคงมีความต้องการขอสินเชื่อมากกว่า 50,000 บาท เพื่อใช้จ่ายกรณีฉุกเฉินจำเป็นหรือใช้เป็นเงินทุนในการประกอบอาชีพ หรือใช้ชำระหนี้นอกระบบให้ครบถ้วน ดังนั้น การกำหนดวงเงินสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ไว้เพียง 50,000 บาทอาจเป็นข้อจำกัดให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ตามความจำเป็นของตน แม้จะมีศักยภาพในการชำระหนี้คืนก็ตาม ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้กำหนดแนวทางในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับความต้องการทางการเงินของประชาชนผู้ใช้บริการ โดยได้นำเสนอให้คณะรัฐมนตรีรับทราบแนวทางการปรับปรุงดังกล่าวในคราวประชุมเมื่อวันอังคารที่ 19 มีนาคม 2562 โดยมีรายละเอียดหลักเกณฑ์ที่จะปรับปรุง ดังนี้

1. วงเงินสินเชื่อ

ขยายเพดานวงเงินสินเชื่อสูงสุดที่ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์จะสามารถให้สินเชื่อแก่ประชาชน จากเดิม 50,000 บาทต่อราย เป็น 100,000 บาทต่อราย

2. ทุนจดทะเบียน

2.1 ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์
ที่ประสงค์จะให้สินเชื่อแก่ประชาชนไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหรือเงินลงหุ้นไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท

2.2  ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ที่ประสงค์จะให้สินเชื่อแก่ประชาชนไม่เกิน 100,000 บาท
ต่อราย ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหรือเงินลงหุ้นไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์อยู่เดิม หากประสงค์จะให้สินเชื่อในวงเงินเกินกว่า 50,000 บาทต่อราย ต้องเพิ่มทุน
จดทะเบียนชำระแล้วหรือเงินลงหุ้นเป็นไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท เพื่อสะท้อนถึงความมั่นคงในการประกอบธุรกิจที่มีการให้สินเชื่อต่อรายในวงเงินที่สูงขึ้น

3. อัตราดอกเบี้ย รวมค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียม

3.1 วงเงินสินเชื่อ 50,000 บาทแรก อาจเรียกเก็บได้ไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี (Effective Rate)

3.2 วงเงินสินเชื่อส่วนที่เกินกว่า 50,000 บาท อาจเรียกเก็บได้ไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี (Effective Rate)

ทั้งนี้ จากฐานข้อมูลโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 กระทรวงการคลังประเมินว่า การขยายวงเงินสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ในครั้งนี้จะครอบคลุมการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีหนี้นอกระบบได้เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 79 เป็นร้อยละ 92

อนึ่ง กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงประกาศกระทรวงการคลังและประกาศสำนักงานเศรษฐกิจการคลังที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามหลักการข้างต้น ซึ่งจะให้มีผลใช้บังคับโดยเร็วต่อไป และเมื่อประกาศต่างๆ มีผลใช้บังคับแล้ว
ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์รายเดิม หรือผู้ที่อยู่ระหว่างยื่นคำขออนุญาต และมีความประสงค์จะปรับวงเงินให้สินเชื่อสูงสุดเป็นจำนวน 100,000 บาท สามารถแจ้งความประสงค์ขอปรับเพิ่มทุนจดทะเบียนได้โดยไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด

ติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านเว็บไซต์ www.1359.go.th และโทรศัพท์สายด่วน 1359