มธบ.สร้างบัณฑิตในหลักสูตรพันธุ์ใหม่ตอบโจทย์แรงงานยุคดิจิทัล
มธบ.ลงนามความร่วมมือภาคเอกชนกว่า 6 แห่ง สร้างบัณฑิตในหลักสูตรพันธุ์ใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21 ที่ต้องการบุคลากรที่มีทักษะด้าน Soft skills ควบคู่ทักษะด้านวิชาการ หวังพัฒนาบุคลากรในอนาคต (Future workforce) ให้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานในยุคธุรกิจดิจิทัล
มธบ.ลงนามความร่วมมือภาคเอกชนกว่า 6 แห่ง สร้างบัณฑิตในหลักสูตรพันธุ์ใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21 ที่ต้องการบุคลากรที่มีทักษะด้าน Soft skills ควบคู่ทักษะด้านวิชาการ หวังพัฒนาบุคลากรในอนาคต (Future workforce) ให้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานในยุคธุรกิจดิจิทัล
เมื่อวันที่8มีนาคม ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในพิธีลงนามความร่วมมือ จัดตั้ง DP School เพื่อสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่ โดย วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและบัญชี CIBA และหลักสูตร DPU X มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้ร่วมมือกับ บริษัท ไวท์แรบบิทแมเนจเม้นท์ จำกัด (White Rabbit Management ) และภาคเอกชน6แห่งร่วมพิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย
ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานภาคีสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) และ DPU X แห่งมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้ลงนามความร่วมมือกับผู้ประกอบการภาคธุรกิจจัดตั้ง DP School เพื่อพัฒนาหลักสูตรที่เน้นการพัฒนาศักยภาพของกำลังคนในด้าน Soft Skills ในด้านต่างๆที่จำป็นต่อการอยู่รอดในศตวรรษที่ 21 และในช่วงเวลาที่เทคโนโลยี 5G กำลังจะเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนโลกให้ล้ำไปอีก Soft Skills ดังกล่าวเป็นทักษะที่สร้างคนรุ่นใหม่ให้มีกระบวนความคิดหาแนวทางแก้ไขปัญหาได้ดี มีความกล้า สามารถใช้ภาวะผู้นำและผู้ตามได้อย่างเป็นประโยชน์ ซึ่งจะทำให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วในโลกดิจิทัล ทักษะเหล่านี้จำเป็นต่อการพัฒนาธุรกิจและประเทศชาติอันสอดคล้องกับนโยบายชาติ ที่ต้องการบุคลากรซึ่งมีทักษะในด้าน Soft Skills โดยทักษะดังกล่าวเป็นทักษะที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทดแทนได้ โดยจะผลักดันให้การทำงานของคนในโลกแห่งอนาคตประสบความสำเร็จ ตัวอย่างของทักษะดังกล่าว ได้แก่ ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ทักษะการสร้างแรงจูงใจ และทักษะการเจรจาต่อรอง ทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์และการสร้างทีมงาน เป็นต้น
สำหรับการจัดตั้ง DP School นี้ CIBA และ DPU X ของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้ร่วมมือกับ บริษัท ไวท์แรบบิทแมเนจเม้นท์ จำกัด (White Rabbit Management ) โดยมี อาจารย์ วรภัทร์ ภู่เจริญ อดีตวิศวกรนาซ่าและที่ปรึกษาด้านการบริหารสมัยใหม่ให้กับองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน มาร่วมเป็นประธานบอร์ดบริหาร DP School ร่วมด้วย ดร.พณชิต กิติปัญญางาม นายกสมาคม Thai Tech Startup โดยจะมีการจัดหลักสูตรแบบ Action Learning ที่มุ่งเน้นให้นักศึกษาฝึกทักษะที่จำเป็นเพื่อรองรับความต้องการของสถานประกอบการต่างๆ โดยรูปแบบการเรียนรู้จะเน้นการฝึกแบบ Project-based learning และ Solution-based learning โดยวิทยากรเป็นผู้ที่มีทักษะการเป็น CFM (Coach/ Facilitator/ Mentor) สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ยังประกอบด้วยภาคเอกชน อาทิ บริษัท เดอะบางกอก เรซิเดนซ์ 88 จำกัด, บริษัท เอ็นที มายด์ฟูลเนส เวทธ์ จำกัด, บางกอก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ ปาร์ค และ เอสซี กรุ๊ป ซึ่งจะรับนักศึกษาที่ผ่านหลักสูตรของ DPU School เข้าฝึกงานในองค์กรด้วย
ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู
ดร.พัทธนันท์ กล่าว ในตอนท้ายว่า ปัจจุบันนอกเหนือจากทักษะด้านความรู้ความสามารถเชิงวิชาชีพ ที่เราเรียกกันว่า Hard Skills นั้นอาจไม่เพียงพอที่จะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ยังให้ความสำคัญและมุ่งเน้นสร้างนักศึกษาให้มีทักษะที่เป็นที่ต้องการด้าน Soft Skills ไม่ใช่แค่เพื่อพัฒนาให้นักศึกษาเป็นบุคลากรที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานเท่านั้น แต่มุ่งพัฒนาให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าทั้งต่อตลาดแรงงาน ต่อองค์กร และของสังคมโลกด้วย ในการจะสร้างทักษะดังกล่าวนี้จำเป็นต้องอาศัยพันธมิตรที่มีความมุ่งมั่นปรารถนาอย่างแรงกล้าเช่นเดียวกัน จึงทำให้เกิดความร่วมมือครั้งนี้ขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างเครือข่าย แต่ยังร่วมสร้างโครงการความร่วมมือในการเรียนการสอนแบบบูรณาการไปกับการทำงาน การพัฒนาคุณภาพนักศึกษาเพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน รวมไปถึงความร่วมมือแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะ ทั้งทางด้านธุรกิจและวิชาการ ระหว่างองค์กรธุรกิจและภาคการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือ ต้องการสร้างทรัพยากรที่มีคุณค่าและเป็นที่ต้องการขององค์กรทั้งในและต่างประเทศ
นางสาวนภสร ศิริภักดี ผู้อำนวยการแผนกทรัพยากรบุคคล Bangkok Marriott Marquis Queen's Park กล่าวถึงความร่วมมือกับ DP School ว่า โครงการดังกล่าวเป็นการช่วยผลักดันนักศึกษาให้ไปสู่การเรียนรู้ที่พบกับประสบการณ์จริง และเป็นการสร้างศักยภาพเพื่อเป็นบุคคลากรของหน่วยงานเช่นที่โรงแรมที่เป็นองค์กรใหญ่มีห้องพักมากกว่า 1,000 ห้อง และเป็นโรงแรมในระดับห้าดาว ดังนั้นบุคลากรที่เข้ามาร่วมงานต้องมีความพร้อม ที่จะประสานงานและทำงานร่วมกัน อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ นายตติย มีเมศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเลนโซ่ แอโรสเปซ จำกัด กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินส่งออกหลายประเทศและมีลูกค้าไปทั่วโลก อาทิ ฝรั่งเศส อเมริกา เยอรมัน อังกฤษ สิงคโปร์ เป็นต้นและเน้นการทำงานเป็นทีมโดยแต่ละโปรเจคจะใช้บุคลากรนับร้อยเพื่อผลิตชิ้นงานดังนั้นทุกคนจะมีความเชี่ยวชาญตั้งแต่ขั้นพื้นฐานและสามารถปรับใช้ในงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สำคัญสามารถก้าวต่อไปถึงระดับ Hi end เชื่อว่าฐานการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวน่าจะย้ายมาที่ประเทศไทยมากขึ้น
ทั้งนี้เนื่องจากประเทศสหรัฐและจีนมีปัญหากัน ถือเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ เพราะมีความต้องการบุคลากรด้านนี้มาก และสอดคล้องกับการเรียนการสอนที่เน้น Soft Skill คือทักษะต่าง ๆ อันจะเป็นส่วนสำคัญในอนาคตของแต่ละสาขาอาชีพ ที่ไม่ได้เน้นเพียงใบปริญญาแต่จะให้ความสำคัญทางด้านทักษะและความเชี่ยวชาญมากขึ้น โดยค่าตอบแทนที่เราให้จะมากกว่าบริษัทอื่น 20 เปอร์เซ็นต์