posttoday

อ.ส.ค. จัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ น้อมรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9 ชูแนวคิด "สืบสาน รักษา ต่อยอด โคนมไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน"

04 กุมภาพันธ์ 2562

องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เตรียมจัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2562 ชูแนวคิด

 

องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เตรียมจัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2562 ชูแนวคิด "สืบสาน รักษา ต่อยอด โคนมไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" Dairy Thailand Towards Sustainable Development Goals (SDGs) เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร "พระบิดาแห่งการโคนมไทย" โดยงานเทศกาลโคนมแห่งชาติประจำปี 2562 จัดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2562 ณ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย เชิงเขาตาแป้น อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า สำหรับวันที่ 17 มกราคม ของทุกปีเป็นวันโคนมแห่งชาติ  ซึ่ง อ.ส.ค. ได้จัดเทศกาลโคนมแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ในฐานะ "พระบิดาแห่งการโคนมไทย" ที่ทรงพระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่เกษตรกรไทย ซึ่งถือเป็นวันสำคัญอย่างยิ่งต่ออาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศไทย

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวถึงที่มาของวันโคนมแห่งชาติ ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2503 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ได้เสด็จฯ ประพาสทวีปยุโรปเสด็จไปประทับแรม ณ ประเทศเดนมาร์ก ทรงสนพระทัยในกิจการฟาร์มโคนมของชาวเดนมาร์กเป็นอย่างมาก ด้วยทรงเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมน่าจะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรและประเทศไทยจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ว่าด้วยการร่วมมือด้านวิชาการการเลี้ยงโคนมระหว่างประเทศไทยและประเทศเดนมาร์ก

รัฐบาลเดนมาร์กได้เห็นถึงความสนพระทัยในกิจการฟาร์มโคนมของเดนมาร์ก จึงได้ถวายโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมเป็นของขวัญแด่ทั้งสองพระองค์ เพื่อให้ดำเนินโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยบรรลุตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ และได้มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2504 โดยได้ดำเนินการจัดตั้ง "ฟาร์มโคนม" และ "ศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย – เดนมาร์ค" ที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ถือเป็นการตอบสนองพระราชปณิธานและความสนพระทัยในอาชีพการเลี้ยงโคนมในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9)

หลังจากก่อตั้งกิจการฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คเรียบร้อยแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9)และสมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริคที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ก ได้ทรงเปิดฟาร์มโคนมและศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย-เดนมาร์ค อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2505 จึงเป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ของการเลี้ยงโคนมและถือเป็นวันสำคัญต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศไทย โดยต่อมาในปี พ.ศ. 2514 รัฐบาลไทยได้รับโอนกิจการฟาร์มโคนมและศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนม ไทย-เดนมาร์ค จัดตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยใช้ชื่อว่า "องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)" มี สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 160 ถนนมิตรภาพ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เพื่อดำเนินงานในการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมและพัฒนาอุตสาหกรรมนม และคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2530 กำหนดให้วันที่ 17 มกราคม ของทุกปี เป็นวันโคนมแห่งชาติ หลังจากนั้นทาง อ.ส.ค. ได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง "เทศกาลโคนมแห่งชาติ" ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อระลึกถึงความสำคัญและเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9ตลอดจนเป็นการพบปะสังสรรค์ของผู้ที่อยู่ในวงการโคนมไทย ทั้งภาครัฐบาล ภาคเอกชน และเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมอีกด้วย โดยในปี 2562 อ.ส.ค. ได้จัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2562 ขึ้น ภายใต้วัตถุประสงค์ 4 ข้อด้วยกัน คือ

1.เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชได้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมแก่พสกนิกรชาวไทย

2. เป็นศูนย์กลางการหาแนวทางในการพัฒนาโคนมในภูมิภาคอาเซียน โดยจัดประชุมและฝึกอบรมระดับนานาชาติภายในงาน

3. เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม 3.1) สนับสนุนนโยบายส่งเสริมการเลี้ยงโคนม และการรณรงค์เพื่อบริโภคนมของรัฐบาล 3.2) เพื่อแสดงความก้าวหน้าทางด้านวิทยาการการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมนมของประเทศ รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่สู่เกษตรกร3.3)  เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้แสดงความสามารถในการปรับปรุงพันธุ์โคนม และแสดงศักยภาพในการผลิตน้ำนมดิบของโคนมไทยจากเกษตรกรไทย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าพันธุกรรมโคนม 3.4)  เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความรู้ความสามารถในด้านต่างๆพร้อมรับมอบรางวัลทุนการศึกษาโดยจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ อาทิเช่น กิจกรรมแข่งขันปาฐกถาชิงถ้วยรางวัลพระราชทานฯ กิจกรรมแข่งขันกีฬาชิงทุนการศึกษา กิจกรรมสัมมนาวิชาการ กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ ฯลฯ 3.5) เพื่อสนับสนุนเผยแพร่สินค้าของดีจังหวัดสระบุรี ซึ่งก่อให้เกิดรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น

4. เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงโคนมและอุตสาหกรรมนม มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ทัศนคติซึ่งกันและกัน

เรียกได้ว่ามางานเดียวได้ทั้งองค์ความรู้ทางด้านวิชาการเลี้ยงโคนม นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัยรวบรวมไว้ให้เรียนรู้แบบเบ็ดเสร็จ ณ สถานที่ที่เดียว