posttoday

เครือเจริญโภคภัณฑ์เสนอแนวทางแก้ปัญหามะพร้าวล้นตลาดราคาตกต่ำ ระยะสั้นต้องชะลอหรืองดการนำเข้า หากมีการนำเข้าภาครัฐต้องกำหนดปริมาณการนำเข้า เร่งใช้สต๊อกเก่าให้หมดก่อน ระยะยาว

22 มกราคม 2562

ควรส่งเสริมเกษตรกรปลูกมะพร้าวพันธุ์ดีทดแทนการนำเข้า สนับสนุนการแปรรูปเพื่อส่งออกกะทิ อาหารและขนมไทยไปทั่วโลกเพราะคุณภาพมะพร้าวไทยดีที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ในส่วนของ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้พัฒนา "ทับสะแกโมเดล"

 

เครือเจริญโภคภัณฑ์เสนอแนวทางแก้ปัญหามะพร้าวล้นตลาดราคาตกต่ำ ระยะสั้นต้องชะลอหรืองดการนำเข้า หากมีการนำเข้าภาครัฐต้องกำหนดปริมาณการนำเข้า เร่งใช้สต๊อกเก่าให้หมดก่อน ระยะยาว ควรส่งเสริมเกษตรกรปลูกมะพร้าวพันธุ์ดีทดแทนการนำเข้า สนับสนุนการแปรรูปเพื่อส่งออกกะทิ อาหารและขนมไทยไปทั่วโลกเพราะคุณภาพมะพร้าวไทยดีที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ในส่วนของ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้พัฒนา “ทับสะแกโมเดล” ไม่นำเข้า  ส่งเสริมเกษตรกรพัฒนาสายพันธุ์มะพร้าวให้ได้ผลผลิตเพิ่ม พร้อมรับซื้อเพื่อส่งเป็นวัตถุดิบป้อนบริษัทในเครือผลิตอาหาร

วันที่ 22 มกราคม 2562 - นายขุนศรี ทองย้อย ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่าสถานการณ์มะพร้าวล้นตลาดและราคาตกต่ำเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจากพื้นที่ปลูกมะพร้าวในประเทศไทยมีเพียง 1 ล้านไร่ ผลผลิตจึงไม่เพียงพอกับความต้องการ ส่วนหนึ่งเพราะพื้นที่ปลูกมะพร้าวลดลงในขณะที่ปริมาณการใช้มะพร้าวสูงขึ้น จึงมีการนำเข้าโดยปราศจากการตรวจสอบ จนถึงปัจจุบันมีปริมาณมะพร้าวมากกว่าความต้องการใช้จริงในประเทศสร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวโดยเฉพาะในภาคใต้ ในการนี้มีความเห็นว่ารัฐบาลควรเร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นสามารถที่จะชะลอการนำเข้าหรืองดการนำเข้า หากมีการนำเข้าต้องกำหนดปริมาณการนำเข้า และที่สำคัญต้องป้องกันการลักลอบนำเข้า เร่งใช้สต๊อกเก่าเพื่อลดซัพพลายในตลาดฯ สำหรับระยะยาวมีความเห็นว่าทางราชการควรส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมะพร้าวพันธุ์ดีเพื่อลดการนำเข้า โดยการกำหนดโซนนิ่งเพื่อให้ผลผลิตออกมาเพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ  นอกจากนี้ควรส่งเสริมการแปรรูปเพื่อส่งออกกะทิ อาหารและขนมหวานไทยไปทั่วโลก เนื่องจากคุณภาพกะทิของประเทศไทยเป็นที่ 1 ของโลก ในขณะที่ผลผลิตมีมากเป็นอันดับ 7 ของโลก

สำหรับเครือเจริญโภคภัณฑ์ ปัจจุบันทดลองพัฒนาโครงการ “ทับสะแกโมเดล” จ.ประจวบคีรีขันธุ์  เริ่มดำเนินงานเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาโดยส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้ได้ผลผลิตดี ปัจจุบันสามารถพัฒนาจนได้ผลผลิต 800 กิโลกรัม/ไร่ จากเดิม 500 กิโลกรัม/ไร่ และรับซื้อในราคาที่เป็นธรรมบวกราคาเพิ่มให้อีกหากผลผลิตดีให้น้ำกะทิคุณภาพสูง โดยป้อนเข้าบริษัทในเครือได้แก่ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ และ บจก.ซีพีแรม เพื่อผลิตอาหารคุณภาพดี โดยปัจจุบันมีการรับซื้ออยู่ที่ 50,000 ผล/เดือน ไม่มีการนำเข้าจากต่างประเทศเนื่องจากเชื่อมั่นในคุณภาพมะพร้าวของประเทศไทย

เครือเจริญโภคภัณฑ์เสนอแนวทางแก้ปัญหามะพร้าวล้นตลาดราคาตกต่ำ ระยะสั้นต้องชะลอหรืองดการนำเข้า หากมีการนำเข้าภาครัฐต้องกำหนดปริมาณการนำเข้า เร่งใช้สต๊อกเก่าให้หมดก่อน ระยะยาว