posttoday

สถ.ขับเคลื่อนโยบายรัฐบาลแนะแนวทางบริหารงานให้อปท.

07 ธันวาคม 2561

สถ. จัดอภิปราย"การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่" พร้อมแนะแนวทางการบริหารงานให้ อปท.

สถ. จัดอภิปราย"การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่" พร้อมแนะแนวทางการบริหารงานให้ อปท.

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561 เวลา 09.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และ ม.ร.ว.รณจักร จักรพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ ร่วมอภิปราย เรื่อง "การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่" ในโครงการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการการจัดทำและการบริหารงบประมาณของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ให้แก่ท้องถิ่นจังหวัดทุกจังหวัด ผู้แทนสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด ผู้อำนวยการสำนัก/กอง ผู้บริหารกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้สังเกตุการณ์จากสำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า 300 คน เข้ารับฟัง ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร

ช่วงแรกนายแมนรัตน์ ได้อภิปรายถึงแนวคิดและวิธีการในการทำงานเกี่ยวกับการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ของการทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีว่า ก่อนจะทำการขับเคลื่อนนโยบาย ต้องเริ่มจากการวิเคราะห์ประเมินจังหวัดที่จะต้องมาทำงาน ว่ามีจุดเด่นอะไรที่จะส่งเสริม และพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ่นไป มีจุดด้อยอะไรที่จะต้องแก้ไขปรับปรุง หรือกำจัดจุดอ่อนแก้ไขให้เป็นเรื่องที่ดีๆ หรือพัฒนาให้กลายเป็นเป้าหมายให้ที่อื่นๆคิด หรือทำตาม รวมทั้งได้ถ่ายทอดประสบการณ์ในการของบประมาณของจังหวัด กลุ่มจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่สามารถบริหารจัดการให้ผลการเบิกจ่ายของจังหวัดที่เคยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี จนมีผลการเบิกจ่ายเป็นลำดับที่ 1 ของประเทศว่า ก่อนอื่นเราต้องกำหนดเป้าหมายในการทำงานหรือการดำเนินการต่างๆของจังหวัด ต้องมีการติดตามโครงการหรือแผนงานทุกครั้ง ตรวจสอบว่ามีโครงการอะไร และพื้นที่นั้นๆ เป็นอย่างไร มีความเหมาะสมกับโครงการหรือไม่ ทั้งยังต้องมีการทำงานแบบคู่ขนานกันไปในทุกด้าน และต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือมีหน้าที่รับผิดชอบในเนื้องานต่างๆ เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การจัดทำคำของบของโครงการต่างๆ ได้มีความรู้ความเข้าใจในระเบียบ กฎหมาย และวิธีการดำเนินงานด้วย

ต่อมานายสุทธิพงษ์ ได้กล่าวถึงแนวทางการทำงานให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมว่า ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการมีทัศนคติที่ดี มีความอยากพัฒนาประเทศชาติ ซึ่งในการทำงานนั้นหน่วยงานของรัฐต้องเป็นเสมือนศูนย์กลางในการขับเคลื่อน ที่มีพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางของความต้องการ เช่น ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดี โดยมี 4 มิติหลักๆ ที่ต้องทำ คือ 1. ด้านภารกิจหน้าที่โดยตรง (Function) ตามระเบียบ กฎหมาย ว่าเราต้องทำอะไรในการพัฒนาประเทศ 2. ด้านยุทธศาสตร์ (Agenda Based) ตามภารกิจที่รับผิดชอบของการแบ่งงานไปยังกระทรวง/กรมต่างๆ 3. การแบ่งงานตามพื้นที่ของจังหวัดนั้นๆ (Area Based) เพราะในแต่ละพื้นที่จะมีหลายสิ่งรอให้เราเข้าไปขับเคลื่อน เราก็ต้องมีความกระตือรือร้นในการเข้าถึงพื้นที่ และต้องเข้าไปรับฟังประชาชนในพื้นที่ด้วย และในด้านการของบประมาณในการบริหารหรือพัฒนานั้น จำเป็นต้องมีกรอบ มีนโยบาย โดยคำนึงถึงความรวดเร็วในการบริหารจัดการเป็นสำคัญ รวมถึงต้องมีการเร่งรัดในทุกการดำเนินงานด้วย ทั้งนี้ ก็อยู่ที่ผู้นำ ซึ่งหมายถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน จึงต้องมีการทำความเข้าใจให้ได้เห็นถึงความสำคัญในโครงการหรือแผนงานต่างๆ ให้ได้ ซึ่งท่านท้องถิ่นจังหวัดต้องเป็นผู้ที่รอบรู้ เรื่องงาน สามารถให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานขับเคลื่อนให้ได้อย่างแนบเนียน ดังนั้น ท้องถิ่นจังหวัดต้องทำให้ทุกคนในสำนักงานและทุกคนในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับรู้เรื่องงาน เรื่องระเบียบต่าง และต้องมีการเร่งรัดติดตามงานด้วย และ 4. ด้านความต้องการ (Passion) สิ่งที่เราต้องการให้เกิด หรือสิ่งที่เราอยากทำ นั่นคือการที่เรามีความต้องการพัฒนางานด้านต่างๆ พัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาพื้นที่นั้นๆ ให้มีความเจริญก้าวหน้า พี่น้องประชาชนได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งต้องไม่ลืมที่จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบด้วย และยังต้องมีการประชาสัมพันธ์รายงานให้ประชาชนได้รับรู้ถึงการทำงาน ผลงานต่างๆ ที่ทำให้แก่พี่น้องประชาชน รวมถึงต้องมีการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่คนทำงานด้วยการให้รางวัล ให้การยกย่องชมเชยคนที่ทำดีด้วย เพื่อให้เกิดการเลียนแบบในการอยากทำความดีต่อไปนั่นเอง

อีกท่านหนึ่งคือ ม.ร.ว.รณจักร ที่เริ่มแรกก็ได้กล่าวชื่นชมท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ว่าเป็นผู้นำที่สามารถบริหารงานของจังหวัดได้อย่างดี และมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการบูรณาการแผนงานต่างๆของจังหวัดที่ดีเยี่ยม และด้านการบริหารงบประมาณภายในจังหวัด จนเป็นจังหวัดที่มีผลการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นที่ 1 ประเทศ และได้ให้ความรู้เพิ่มเติมถึงภารกิจหน้าที่ต่างๆ (Function) ของแผนพัฒนาจังหวัด และความเชื่อมโยงของยุทธศาสตร์ชาติกับแผนงานต่างๆ ที่ด้านการทำแผนงานนั้น ควรจะมีความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติให้ได้ และได้แนะนำให้ผู้เข้ารับการอบรมถึงการทำงานในปีงบประมาณต่อไปว่า สำหรับในปีงบประมาณ 2563 นั้น ต้องมีการเตรียมการ วางแผน ว่าจะดำเนินงาน หรือภารกิจด้านใดบ้าง ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด และต้องมีการพูดคุย ทำความเข้าใจ ทั้งในทีมงาน ผู้รับผิดชอบงานด้านต่างๆ ด้วย เพื่อความสะดวกและคล่องตัวในการทำงานให้สามารถเกิดผลสัมฤทธิ์ได้อย่างสูงสุดนั่นเอง