การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมุ่งสู่ PEA Digital Utility

นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คนที่ 14 เผยแนวทางการบริหารและพัฒนาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA สู่การเป็น PEA Digital Utility ตามนโยบาย KEEN14 “สานงานเดิม เสริมธุรกิจใหม่ ใช้นวัตกรรม หนุนนำทุนมนุษย์” ประกอบด้วย 14 กลยุทธ์ ครอบคลุมการดำเนินงานด้านต่างๆ อาทิ การพัฒนาปรับปรุงองค์กรและปรับปรุงระบบไฟฟ้า (Grid) การพัฒนาธุรกิจใหม่ การประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล การส่งเสริมพัฒนาบุคลากร โดยยึดหลักธรรมาภิบาลและการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาดมุ่งสู่การไฟฟ้าดิจิทัล (Digital Utility)

สานงานเดิม : Keep Improving Existing Business

ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์องค์กรและสานต่อนโยบายเดิมเพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินงาน ด้วยการยกระดับพัฒนาระบบไฟฟ้าและพัฒนาองค์กร เพื่อให้ธุรกิจหลักของ PEA แข็งแกร่ง สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อาทิ การปรับปรุงระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคง ปลอดภัย เป็นระเบียบ ครอบคลุมทุกพื้นที่ รองรับการเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้า และการผลิตไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ เร่งรัดพัฒนาระบบไฟฟ้าใต้ดิน และระบบไฟฟ้าอัจฉริยะสำหรับเมืองใหญ่ พื้นที่อุตสาหกรรม พื้นที่เศรษฐกิจและพื้นที่ยุทธศาสตร์ของประเทศตามนโยบายรัฐบาล มุ่งเน้นบริการที่เป็นเลิศ รวดเร็ว โปร่งใส โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง บริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลและพัฒนาระบบงานโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินงาน

เสริมธุรกิจใหม่ : Enhance New Business

เร่งรัดพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภารกิจหลักของ PEA ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจไปสู่ธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้ดี โดยดำเนินการเองหรือร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจผ่านบริษัทในเครือของ PEA ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายระเบียบ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า และขยายธุรกิจไปสู่ต่างประเทศ รวมถึงพัฒนาธุรกิจเสริม อาทิ ธุรกิจด้านก่อสร้าง ปฏิบัติการ บำรุงรักษาระบบไฟฟ้า และธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน รวมถึงธุรกิจหลังมิเตอร์ เพื่อให้บริการด้านพลังงานแบบครบวงจร

ใช้นวัตกรรม : Employ Innovation and Technology

พัฒนากระบวนงานต่างๆ ของ PEA โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้วยการใช้สินทรัพย์ที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดและรองรับธุรกิจที่จะเกิดใหม่ อาทิ การพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่พิเศษ พัฒนาระบบบริหารจัดการ และวิเคราะห์ข้อมูล (Big data Analytic) นำเทคโนโลยี Blockchain มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานของ PEA รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า

หนุนนำทุนมนุษย์ : Nourish Human Resource

สร้างระบบและกลไกเพื่อนำศักยภาพของพนักงานมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร พัฒนาทักษะพนักงาน ทั้งด้านทักษะด้านความรู้ (Hard Skills) และทักษะด้านอารมณ์ (Soft Skills) เพื่อการทำงานอย่างมืออาชีพ ส่งเสริมกระบวนการจัดการความรู้

(Knowledge Management) จัดตั้งระบบคลังนวัตกรรม (PEA Innovation Tank) เพื่อส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและขยายผลการใช้งานอย่างเป็นระบบเพื่อนำไปสู่องค์กรแห่งนวัตกรรม และสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรให้มี Productivity สูง เพื่อมุ่งสู่องค์กรสมรรถนะสูง สร้างบรรยาการทำงานและการมีส่วนร่วมเพื่อให้ PEA กลายเป็นองค์การแห่งความสุข ปรับเปลี่ยนการดำเนินการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Corporate Social Responsibility : CSR) ไปสู่การร่วมสร้างคุณค่าสู่สังคม (Creative Share Value : CSV) เพื่อความยั่งยืน

ผู้ว่าการ PEA กล่าวว่า PEA ก้าวสู่ปีที่ 59 กับความท้าทายบทใหม่จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและนโยบายภาครัฐที่จะส่งผลทำให้โครงสร้างอุตสาหกรรมไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงไปมาก ดังนั้น PEA จึงต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มุ่งสู่องค์กรที่เป็นเลิศด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า ร่วมสร้างคุณค่าสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นำพาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้ก้าวเข้าสู่การเป็น PEA Digital Utility ต่อไป