posttoday

พช.ดึงศิลปินแห่งชาติ-นักมวยโปรโมทชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี

28 กันยายน 2561

พช.ดึงศิลปินแห่งชาติ “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ร่วมเขียนบทกวีเสน่ห์ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี”และ“บัวขาว บัญชาเมฆ” โปรโมทท่องเที่ยวเมืองรองกว่า 3,273 แห่งทั่วประเทศ

พช.ดึงศิลปินแห่งชาติ “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ร่วมเขียนบทกวีเสน่ห์ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี”และ“บัวขาว บัญชาเมฆ” โปรโมทท่องเที่ยวเมืองรองกว่า 3,273 แห่งทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีว่า ได้ชวนเชิญ “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ศิลปินแห่งชาติ มาร่วมเขียนบทกวีบอกเล่าความโดดเด่นของ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ในภาพรวมของแต่ละจังหวัดรวม 76 จังหวัด เพื่อร่วมประชาสัมพันธ์โครงการนี้ และจัดพิมพ์เป็นไกด์บุ๊คเผยแพร่ทั่วประเทศ รวมถึงได้ “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักมวยไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ให้แก่โครงการนี้ด้วย นอกจากนั้นยังมีนักร้อง นักแสดง และนักเขียนอีกหลายคนที่ตอบรับจะร่วมกันเผยแพร่เสน่ห์ของ “แอ่งเล็ก...เช็คอิน” เพื่อให้โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ประสบความสำเร็จและเกิดประโยชน์แก่ชุมชนหมู่บ้านทั่วประเทศให้ได้มากที่สุด

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่าหากจะเปรียบไปแล้วการพัฒนา OTOP ก็เหมือนเหรียญสองด้านคือหัวกับก้อย แต่เดิมนั้นการพัฒนา OTOP เน้นที่ด้านหัว คือคัดเลือกสินค้าเพื่อไปจำหน่ายตามงานอีเว้นท์ต่างๆ ที่ปีหนึ่งก็ทำได้ในจำนวนจำกัด และชาวบ้านต้องขนสินค้าออกมาขายนอกชุมชน จำนวนสินค้าที่ได้รับคัดเลือกให้ไปขายตามงานต่างๆ ก็กระจุกตัวอยู่ที่ระดับสามดาวขึ้นไปที่มีอยู่ราวสองหมื่นรายการ ขณะที่สินค้า OTOP ที่ขึ้นทะเบียนมีกว่าแปดหมื่นรายการ และจนถึงขณะนี้มีราวหนึ่งแสนสองหมื่นรายการ

โครงการ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” จึงเป็นเหรียญอีกด้าน ที่พัฒนา OTOP โดยการนำศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศมาช่วยขับเคลื่อน นำผู้ซื้อคือนักท่องเที่ยว ลงสู่ชุมชน ไปพบผู้ขายคือชาวบ้านในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้สินค้า OTOP กลุ่มใหญ่ที่รอการพัฒนาและเข้าถึงได้รับโอกาสในการสร้างรายได้แก่ผู้ผลิตโดยตรงนั่นเอง

จากข้อมูลระบุว่าประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน/ปี และนักท่องเที่ยวไทย 60 ล้านคน/ครั้ง ต่อปี ตลอดทั้งปี ส่วนผู้ขาย OTOP และสินค้าบริการอื่นๆ ก็มีอยู่ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัด โดยทุกชุมชนไม่ได้เริ่มจากศูนย์ เพราะแต่ละแห่งมีทั้งวัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิต อาหารการกิน สัมมาชีพ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมทั้งสินค้า OTOP ที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นที่ชาวบ้านผลิตได้เองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อมีการพัฒนาให้เกิดการรับรู้และเข้าถึง “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ก็จะทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้พบกัน จะทำให้เม็ดเงินจำนวนมหาศาลกระจายไปสู่ชุมชนฐานรากของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

พร้อมกันนี้ กรมการพัฒนาชุมชน ยังได้พัฒนาเพื่อเชื่อมต่อแพลทฟอร์มของ  “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ที่เรียกกันว่า “แอ่งเล็ก เช็คอิน” เข้ากับ “เมืองหลัก” และ “เมืองรอง” ซึ่งเป็นแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวเดิมของประเทศที่มีอยู่ก่อนแล้ว เป็น Application ที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางและหาข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ทั้ง 3,273 แห่งทั่วประเทศ

“เป้าหมายการทำงานของกรมการพัฒนาชุมชนคือ เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง และประชาชนพึ่งตนเองได้ ภายในปี 2564 โดยโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อยู่ภายใต้งบประมาณ “โครงการไทยนิยม ยั่งยืน” ที่รัฐบาลผลักดันอย่างเต็มที่นี้ นับเป็นการพลิกโฉม OTOP ครั้งสำคัญในยุค 4.0”

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ย้ำอีกว่าเราทุกคนต่างสามารถเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของโครงการนี้ได้ ทั้งในฐานะเจ้าบ้านที่ดีที่พร้อมจะเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยเสน่ห์อันเป็นอัตลักษณ์แต่ละชุมชน และในฐานะนักท่องเที่ยวที่พร้อมจะออกเดินทางไปค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ และอุดหนุนสินค้า OTOP จาก “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ทั้ง 3,273 ชุมชนทั่วประเทศ เพื่อนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ในลักษณะ “ประชารัฐ” โดยชุมชนเป็นตัวตั้ง เอกชนร่วมขับเคลื่อน และรัฐสนับสนุน ภายใต้แนวคิด “ร่วมสุข ร่วมวิถี ร่วมสมัย” ร่วมสร้างรอยยิ้มและความสุขอย่างยั่งยืนให้แก่ชุมชนหมู่บ้านทั่วประเทศไปด้วยกัน.