posttoday

บิวตี้ คอทเทจ ดึงนักปั่นสาวร่วมกิจกรรม พร้อมรุกตลาดในกลุ่มประเทศ AEC

12 กันยายน 2561

บิวตี้ คอทเทจเปิดตัวแคมเปญ Beauty Cottage X Long-Legged Ladies Cycling Team ดึงนักปั่นสาวร่วมกิจกรรม พร้อมรุกตลาดในกลุ่มประเทศ AEC

บิวตี้ คอทเทจเปิดตัวแคมเปญ Beauty Cottage X Long-Legged Ladies Cycling Team ดึงนักปั่นสาวร่วมกิจกรรม พร้อมรุกตลาดในกลุ่มประเทศ AEC

ดร.พีระพงษ์  กิติเวชโภคาวัฒน์  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้  ผู้นำธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว ภายใต้แนวคิด Live a beautiful life  เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกเครื่องสำอางในช่วงไตรมาสที่ 4 ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้หญิงทุกคนยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง  ธุรกิจและสินค้าค้าปลีกเครื่องสำอาง ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศ

ทั้งนี้ เครื่องสำอางบิวตี้ คอทเทจ (BEAUTY COTTAGE) แบรนด์ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ความงามครองใจผู้บริโภคชาวไทยและต่างประเทศ  นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่มีอันตรายต่อผู้บริโภค  ในบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบแนวศิลปะ สมาร์ทไลฟ์ มุ่งเน้นการบำรุงผิวพรรณ เพื่อความสวยงามตั้งแต่หัวจรดเท้า เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้หญิงวัยทำงานทุกคน ในราคาที่จับต้องได้

บิวตี้ คอทเทจ ดึงนักปั่นสาวร่วมกิจกรรม พร้อมรุกตลาดในกลุ่มประเทศ AEC ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บริษัทฯได้จัดแคมเปญ  Beauty Cottage X Long-Legged Ladies Cycling Team โดยร่วมกับ Long-Legged Ladies Cycling Team  ทีมจักรยานหญิงทีมแรกของไทย ที่รวบรวมสาวๆขายาวไว้มากที่สุด " Long-Legged Ladies" หรือ "LLL" เป็นกลุ่มนางแบบสาวที่รักในการปั่นจักรยานก็เป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่สมาชิกทุกคนชื่นชอบ โดย Beauty Cottage ร่วมสนับสนุนการออกกำลังกายของผู้หญิง ให้พร้อมลุยกับกิจกรรมสุดโปรดของตัวเอง

ดร.พีระพงษ์  กล่าวว่า สมาชิกของ LLL แต่ละคน เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเอง 1 ชิ้น  ในรายการที่กำหนดให้ ครอบคลุมเกือบทั้งหมดในความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งแบ่งปันประสบการณ์จากการใช้ผลิตภัณฑ์จริง  มีความน่าเชื่อถือของข้อมูล ที่ไม่ได้มุ่งเน้นการขายสินค้าจนเกินไป แต่เป็นคอนเทนต์ที่คำนึงถึงการมอบประโยชน์ให้แก่ผู้บริโภคทุกคน

"ผลประกอบการของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้  ควบคู่ไปกับการขยายตลาดเชิงรุกในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อรองรับกำลังซื้อ คาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น   โดยช่องทางขายรูปแบบใหม่ Cross-border E-commerce หรือ การซื้อขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มในประเทศจีน นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการสร้าง “Shop License" และ "Product Distributor" ในกลุ่มประเทศ AEC ซึ่งรูปแบบการขายสินค้าจะเป็นช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงง่ายทั้ง Offline Retailer และ Online Retailer ที่ได้รับความนิยมในประเทศอินโดนีเซียมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาหาข้อมูล" ดร.พีระพงษ์กล่าว