posttoday

รมว.แรงงาน เผย สนช.เห็นชอบผ่านร่าง พ.ร.บ.เงินทดแทนฉบับใหม่แล้ว

12 กันยายน 2561

เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2561

 

เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2561

พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงร่างแก้ไขพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้กับลูกจ้างได้มีหลักประกันที่มั่งคงและยั่งยืน โดยระบุว่า ขณะนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้เห็นชอบผ่านร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทนฉบับใหม่แล้ว พร้อมเตรียมเสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ต่อไป คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2561

"สำหรับร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมจะทำให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น นายจ้างได้รับความเป็นธรรม มีการเพิ่มคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อกำกับดูแลความโปร่งใสของกองทุนเงินทดแทน โดยสาระสำคัญของ พ.ร.บ.เงินทดแทนฯ อาทิ ขยายความคุ้มครองลูกจ้างของส่วนราชการ ขยายความคุ้มครองครอบคลุมไปถึงลูกจ้างที่ทำงานในองค์กรของนายจ้างที่มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรทางเศรษฐกิจ มีการแก้ไขการออกหลักเกณฑ์เงื่อนไขและอัตราในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน และค่าทำศพกรณีลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจนถึงแก่ความตายหรือสูญหาย ให้ออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์ ดังนี้ เพิ่มอัตราค่าทดแทนกรณีต่างๆ จากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือน เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้าง ทุพพลภาพเป็นไม่น้อยกว่า 15 ปี ปัจจุบันไม่เกิน 15 ปี เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้าง ถึงแก่ความตายหรือสูญหายเป็นไม่เกิน 10 ปี ปัจจุบันไม่เกิน 8 ปี แก้ไขหลักเกณฑ์การจ่ายค่าทดแทนสำหรับกรณีลูกจ้าง ไม่สามารถทำงานได้ให้ได้รับตั้งแต่วันแรกที่ลูกจ้างไม่สามารถทำงาน ปัจจุบันจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้าง ไม่สามารถทำงานติดต่อกันได้เกิน 3 วัน เพิ่มการจ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้างตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง ปัจจุบันการจ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้างเป็น 100 เท่าของอัตราสูงสุดของค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน

นอกจากนี้ ในส่วนของนายจ้างจะได้รับประโยชน์ด้วย คือ ปรับลดเงินเพิ่มจากเดิมร้อยละ 3 ต่อเดือน เหลือร้อยละ 2 ต่อเดือน และกำหนดเกณฑ์การคำนวณเงินเพิ่ม กรณีนายจ้างค้างชำระเงินสมทบ กำหนดให้จำนวนเงินเพิ่มต้องไม่เกินจำนวนเงินสมทบที่นายจ้างต้องจ่าย  โดยขั้นตอนต่อไปเตรียมเสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2561" พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อไปว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมาได้มอบนโยบายให้สำนักงานประกันสังคม เร่งผลักดันการขยายความคุ้มครองประกันสังคมสู่แรงงานนอกระบบเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพิ่มอีก 1 ล้านคน ให้เข้าถึงหลักประกันทางสังคมครอบคลุม เหมาะสมกับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มอาชีพ และส่งเสริมให้แรงงานภาคสมัครใจเข้าสู่ระบบประกันสังคมอย่างทั่วถึง ปัจจุบันได้มีการขยายความคุ้มครองสู่แรงงานนอกระบบทุกกลุ่มอาชีพ เช่น แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และกลุ่มอาชีพอื่นๆ ซึ่งขณะนี้มีสมาชิกกลุ่มดังกล่าวเข้าสู่ระบบประกันสังคมแล้วจำนวน 113,777 คน

นอกจากนี้สำนักงานประกันสังคมได้พัฒนาและเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกจ้าง ผู้ประกันตน อาทิ พัฒนารูปแบบการให้บริการกรณีทันตกรรม โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งมีผู้ประกันตนเข้าถึงบริการทันตกรรม เพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวนถึง 8 แสนครั้ง เพิ่มเป็น 1.27 ล้านครั้งในปัจจุบัน เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร จาก 400 บาท เป็น 600 บาท ต่อเดือน ให้แก่บุตรผู้ประกันตนกว่า 1 ล้านคน  ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกกฎกระทรวง ให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังตั้งแต่ 1 มกราคม 2561เป็นต้นไป อีกทั้งยังมีการเพิ่มค่าฝากครรภ์ กรณีคลอดบุตร ให้กับผู้ประกันตนกว่า 290,000 คน เพิ่มสิทธิประโยชน์และค่าทดแทนให้กับลูกจ้างที่ทำงานให้กับนายจ้าง ในระบบกองทุนเงินทดแทน โดยจัดทำร่างแก้ไขพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้กับลูกจ้างได้มีหลักประกันที่มั่งคงและยั่งยืน

รมว.แรงงาน เผย สนช.เห็นชอบผ่านร่าง พ.ร.บ.เงินทดแทนฉบับใหม่แล้ว

ทั้งนี้ ในปี 2562 สำนักงานประกันสังคม ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงสิทธิประโยชน์การประกันสังคม และปรับปรุงบริการทางการแพทย์ เช่น เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีเข้ารับการผ่าตัดวันเดียวกลับ (One day Surgery) ปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีรักษาโรคมะเร็ง ปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีผู้ทุพพลภาพ ปรับปรุงมาตรฐานสถานพยาบาลที่ให้บริการพัฒนารูปแบบการให้บริการทางการแพทย์กับสถานพยาบาลต่างๆ ในรูปแบบใหม่เพื่อให้บริการผู้ประกันตนระดับพรีเมียมส่งเสริมและป้องกันโรคแก่ผู้ประกันตนในสถานประกอบการ ปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรให้ผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพได้รับสิทธิประโยชน์ไปอีก 6 เดือน (จากเดิมขาดสิทธิทันที) และการให้สัตยาบันอนุสัญญา ILO C 102 ปฏิรูประบบประกันสังคม เพื่อรองรับเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ปฏิรูประบบบำนาญ การปรับเพดานค่าจ้างปรับสูตรการคำนวณบำนาญ ประกันเงินบำนาญขั้นต่ำ (กรณีเสียชีวิตภายใน 5 ปี) ผู้รับบำนาญทำงานต่อได้สิทธิประโยชน์ 3 กรณี (เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย) ขยายอายุการรับบำนาญจาก 55 ปี เป็น 60 ปี ขยายอายุผู้สมัครเป็นผู้ประกันตนในระบบจากเดิม 15–60 ปี เป็น 15 ปีขึ้นไป ขยายโอกาสในการรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป การจ้างงานผู้สูงอายุเข้าทำงานกับสำนักงานประกันสังคมสำหรับบุคคลที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป บูรณาการภาคีเครือข่ายในการส่งเสริม คุ้มครอง และพัฒนาแรงงานนอกระบบให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ได้มีการปรับปรุงให้บริการสำนักงานประกันสังคม  โดยการยกระดับการให้บริการผู้ประกันตน ในระบบ e-Service เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ประกันตนในรูปแบบที่หลากหลายทั้ง e-Service, Mobile Application, Social Media และ Web application ได้แก่ พัฒนาระบบ e-Service เพิ่มช่องทางการสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ผ่านช่องทางต่างๆ เพิ่มขึ้น อาทิ ศูนย์บริการข้อมูล 1506 ร้านสะดวกซื้อ (7-11)  และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพิ่มช่องทางการชำระเงินสมทบผ่านธนาคารและหน่วยบริการพัฒนารูปแบบการรับ-จ่าย เงินให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการเงิน เพื่อก้าวสู่สังคมดิจิทัล โครงการ e-self Service สำหรับนายจ้างและผู้ประกันตน การบูรณาการระหว่างสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กับสำนักงานประกันสังคม การจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามนายจ้างมาขึ้นทะเบียนประกันสังคมโดยใช้ E-mail / SMS แทนการออกหนังสือ การยกเลิกการขอสำเนาเอกสารทางราชการ (Zero copy)