posttoday

รมว.สธ.เดินหน้าไทยนิยมยั่งยืนโวประหยัดค่ารักษาพยาบาลหมื่นกว่าล้าน

12 กันยายน 2561

รมว.สธ.เดินหน้าไทยนิยมยั่งยืนโวประหยัดค่ารักษาพยาบาลหมื่นกว่าล้านลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพสอดคล้องบริบทพื้นที่มั่นใจชาวบ้านความเป็นอยู่ดีขึ้น

รมว.สธ.เดินหน้าไทยนิยมยั่งยืนโวประหยัดค่ารักษาพยาบาลหมื่นกว่าล้านลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพสอดคล้องบริบทพื้นที่มั่นใจชาวบ้านความเป็นอยู่ดีขึ้น

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.61 น.พ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงงานดูแลสุขภาพประชาชน ตามกรอบ “ไทยนิยม ยั่งยืน เพื่อร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข มี 4 กิจกรรมได้แก่

1.โครงการ อสม. 4.0 เพื่อพัฒนาให้มีความรู้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น ในการดูแลประชาชน โดยพัฒนาอสม.ทั่วประเทศ 1,030,000 คน ให้สามารถปฏิบัติงาน ด้านสาธารณสุขในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นบุคลากรที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด

2.โครงการมหัศจรรย์ 1,000 วัน ส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านเครือข่ายชุมชนเพราะเด็กคืออนาคตที่สําคัญของประเทศ  ต้องได้รับการพัฒนาเด็กไทยให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเครือข่ายชุมชนในการค้นหา คัดกรอง และกระตุ้นพัฒนาการเด็กล่าช้าให้ได้รับการกระตุ้น ให้เด็กไทยฉลาดขึ้น เติบโตสมวัย สมส่วน

3.โครงการสร้างอาชีพสําหรับผู้ลงทะเบียนรายได้น้อย ผ่านการอบรมนวดไทย 5,000 คน เพิ่มพูนความรู้ทักษะความสามารถด้านการนวดไทยเพื่อสุขภาพ และสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถนําไปประกอบอาชีพ รวมทั้งการสร้างผู้ช่วยพยาบาล 5,000 คน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานในการดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลให้ผู้ป่วยได้รับการบริการที่ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

และ4.โครงการติดตามผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพ โดยกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต และระบบสุขภาพอําเภอ หรือ พชอ. เพื่อเพิ่มประสิทธิผลการติดตามผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดในระบบสมัครใจ   ทั้งนี้มั่นใจว่าโครงการจะเข้าถึงและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีสุขภาพแข็งแรง มีครอบครัวที่อบอุ่น มีสังคมที่ปลอดภัย นําพาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้เพิ่ม

สำหรับ 4 กิจกรรมได้ ดำเนินการแล้ว เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการที่มี คุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาตามบริบทของพื้นที่ คือโครงการหมอครอบครัว ซึ่งผลการวิจัยพบว่า การจัดให้มีหมอประจํา ครอบครัวจะสามารถลดระยะเวลาการรอคอยในโรงพยาบาลใหญ่จาก 172 นาที ถึง 44 นาที ลดการตายในทารกแรกเกิดได้ร้อยละ 10-40 ลดค่าเดินทางของประชาชนไปโรงพยาบาลได้1,655 บาท/คนรวมทั้งลดค่าใช้จ่ายสุขภาพได้ถึงร้อยละ 25-30 ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศปีละ 50,000 ล้านบาท  และโครงการ พชอ. ที่ส่งเสริมการทํางานแบบประชารัฐ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น โดยเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ขยะและสิ่งแวดล้อม.