posttoday

กรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน จัด "ค่ายสร้างเสริมคุณธรรมนำเยาวชนรักษ์สหกรณ์" ต่อยอดโครงการตามพระราชประสงค์ในหลวงรัชกาลที่ 9  

25 มิถุนายน 2561

ปลูกฝังเยาวชนไทยด้านสหกรณ์ ชูความเป็นผู้นำและการเป็นผู้ประกอบการ ควบคู่กับความซื่อสัตย์และมีคุณธรรม

กรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน จัด "ค่ายสร้างเสริมคุณธรรมนำเยาวชนรักษ์สหกรณ์" ต่อยอดโครงการตามพระราชประสงค์ในหลวงรัชกาลที่ 9  ปลูกฝังเยาวชนไทยด้านสหกรณ์ ชูความเป็นผู้นำและการเป็นผู้ประกอบการ ควบคู่กับความซื่อสัตย์และมีคุณธรรม

เมื่อเร็วๆ นี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์เพชรบุรี ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกระพง ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 15 ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 16 คณะกรรมการหมู่บ้านสหกรณ์ทั้ง 5 แห่ง (สหกรณ์การเกษตรหุบกระพง ดอนขุนห้วย หนองพลับ กลัดหลวงและห้วยสัตว์ใหญ่) และมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท สนับสนุนโดย เครือเจริญโภคภัณฑ์ จัด “ค่ายสร้างเสริมคุณธรรมนำเยาวชนรักษ์สหกรณ์” ครั้งที่ 5 โดยมีพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานเปิดงาน ณ โครงการหมู่บ้านสหกรณ์ตามพระราชประสงค์ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ให้แก่บุตรหลานของสมาชิกสหกรณ์ทั้ง 5 แห่งในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 130 คนจาก 9 โรงเรียน (โรงเรียนหุบกระพง โรงเรียนบ้านดอนขุนห้วย โรงเรียนบ้านเขาอ่างแก้ว โรงเรียนบ้านเขากระปุก โรงเรียนบ้านโป่งเกตุ โรงเรียนบ้านหนองกระทุ่ม โรงเรียนบ้านโป่งแย้ โรงเรียนบ้านป่าเด็งและโรงเรียนอานันท์) โดยมีจุดมุ่งหมายปลูกฝังหลักการของสหกรณ์ “ความเป็นผู้นำ” และ “ความเป็นผู้ประกอบการ” ควบคู่กับปลูกฝังความเป็นคนดีมีความซื่อสัตย์และมีคุณธรรม เพื่อให้เขาเติบโตเป็นคนดีของสังคมในอนาคต สามารถนำความรู้ไปพัฒนาสหกรณ์ในถิ่นบ้านเกิด และต่อยอดสร้างแนวทางการพัฒนาใหม่ๆให้ชุมชนเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงและยั่งยืน

พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ทรงตั้งสหกรณ์การเกษตรหุบกระพง จำกัด อ.ชะอำ จ.เพชรบุรีในปี 2514 ขึ้นเป็นแห่งแรก และขยายผลไปอีก 14 แห่งในจังหวัดอื่นๆ ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีอาชีพและรายได้มั่นคง ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการจัด “ค่ายสร้างเสริมคุณธรรมนำเยาวชนรักษ์สหกรณ์” ถือว่าเป็นการสืบสาน รักษาและต่อยอด โครงการตามพระราชประสงค์ ดังนั้น การจัดกิจกรรมพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม โดยอาศัยระบบสหกรณ์ที่ยึดมั่นในการช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ประกอบกับสหกรณ์นั้นเปรียบเสมือนโรงเรียน ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ในการบริหารจัดการและการสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เหล่านี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ ทั้งในด้านการพัฒนาในมิติ บ้าน วัด และโรงเรียน ดังนั้น การปลูกฝังความรู้ ความเข้าใจเรื่องสหกรณ์ตั้งแต่เด็กในสถานการศึกษาและขยายผลสู่การปกครองท้องถิ่น จะทำให้เยาวชนเกิดแนวคิดใหม่ เห็นคุณค่าและรู้บทบาทในตัวเอง รู้เท่าทันปัญหาที่เกิดขึ้น มีจิตสาธารณะ เกิดความคิดสร้างสรรค์ ที่จะสร้างชุมชนให้เข้มแข็งและประเทศชาติมั่นคงได้

นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท กล่าวว่า มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทก่อตั้งขึ้นโดยผู้บริหารและพนักงานเครือเจริญโภคภัณฑ์ในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรครบ 60 พรรษา ในปี 2532 เพื่อดำเนินงานต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน สร้างงานและสร้างอาชีพ สำหรับ “ค่ายสร้างเสริมคุณธรรมนำเยาวชนรักษ์สหกรณ์” เป็นการสืบสานแนวทางการสหกรณ์ ที่พระองค์ทรงนำมาเป็นเครื่องมือพัฒนาอาชีพและพัฒนาชีวิตของประชาชนให้ยั่งยืน และเชื่อมั่นว่าโครงการนี้  จะช่วยปลูกฝังแนวคิดด้านสหกรณ์ คุณธรรม ความเป็นผู้นำและความเป็นผู้ประกอบการให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ เพื่อให้เขาได้มีส่วนในการช่วยพัฒนาชุมชนและสังคมในอนาคต

ระหว่าง 2  วันของการอบรม เยาวชนจะได้ฝึกทักษะต่างๆ จากฐานการเรียนรู้ 6 ฐาน ประกอบไปด้วย 1.  นิทรรศการ 11 หมู่บ้านสหกรณ์ 2. กิจกรรมสร้างคุณธรรมต้นกล้าความดีและจัดทำโครงงานคุณธรรม 3. การสหกรณ์ อุดมการณ์และหลักการสหกรณ์ 4. กิจกรรมจำลองระบบการจัดการสหกรณ์ 5. กิจกรรมชวนน้องทำบัญชีและ 6. ระบบสหกรณ์โรงเรียนวังไกลกังวล

กรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน จัด "ค่ายสร้างเสริมคุณธรรมนำเยาวชนรักษ์สหกรณ์" ต่อยอดโครงการตามพระราชประสงค์ในหลวงรัชกาลที่ 9  

เด็กชายภูวนัย วงษ์เพ็ง อายุ 11 ปี โรงเรียนบ้านดอนขุนห้วย บอกว่า ครอบครัวของเขาทำอาชีพการเกษตรและบิดามารดาได้เล่าถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่เสมอว่า พระองค์ทรงจัดตั้งโครงการหุบกระพง โดยนำระบบสหกรณ์เข้ามาช่วยพัฒนา ทำให้ชาวบ้านที่นี่อยู่กินดีกินดีจนมาถึงทุกวันนี้ ดังนั้น การเข้าร่วมโครงการค่ายครั้งนี้ จะทำให้เข้าใจถึงหลักการสหกรณ์ลึกซึ้งมากขึ้น โดยเฉพาะการทำงานร่วมกัน การเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานและแสดงความคิดเห็นจะก่อเกิดการพัฒนาในชุมชนด้านต่างๆได้ และตั้งใจว่าจะช่วยสืบสานแนวทางสหกรณ์ของพระองค์ต่อไป

เด็กหญิงณิชกานต์ บุญแต่ง อายุ 11 ปี โรงเรียนบ้านหุบกระพุง บอกว่า ตนและครอบครัวตระหนักอยู่เสมอว่า แนวทางด้านสหกรณ์ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้วางรากฐานไว้ให้กับโครงการหุบกระพง นั้นช่วยยกระดับชีวิตของคนในชุมชนจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้น การเข้าร่วมกับโครงการนี้ยิ่งทำให้รับรู้ว่า ประโยชน์ของสหกรณ์นั้นมีมากมาย ทั้งกับส่วนรวมและตัวของเราเอง โดยเธอตั้งใจว่า จะนำความรู้ที่ได้จากการอบรม ไปถ่ายทอดให้กับคนอื่นๆในสังคมให้รับรู้ เพื่อนำไปปฏิบัติและสานต่อ เพราะเชื่อว่าหลักการของสหกรณ์สามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตและช่วยเปลี่ยนแปลงสังคมได้  

กรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน จัด "ค่ายสร้างเสริมคุณธรรมนำเยาวชนรักษ์สหกรณ์" ต่อยอดโครงการตามพระราชประสงค์ในหลวงรัชกาลที่ 9