posttoday

จิตรกรรมยูโอบี เวทีสร้างดาวประดับวงการศิลปะไทยและนานาชาติ

10 มิถุนายน 2561

จิตรกรรมยูโอบี การประกวดศิลปะ ที่ช่วยสร้างโอกาสและต่อยอดผลงานของศิลปินไทยที่ชนะเลิศจากการประกวด

จิตรกรรมยูโอบี การประกวดศิลปะ ที่ช่วยสร้างโอกาสและต่อยอดผลงานของศิลปินไทยที่ชนะเลิศจากการประกวด

ในเวทีประกวดร้องเพลงผู้ชนะยังถูกต่อยอดให้กลายเป็นนักร้องมีเพลงเป็นของตัวเองมีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว ด้านการประกวดศิลปะก็เช่นเดียวกันที่จำเป็นจะต้องส่งเสริมและผลักดันให้ศิลปินคนนั้นกลายเป็นศิลปินที่โด่งดังมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับเป็นที่รู้จักในวงการศิลปะในระดับโลก

การประกวดจิตรกรรมยูโอบี คือหนึ่งในเวทีนั้นที่ช่วยสร้างโอกาส และต่อยอดผลงานของศิลปินไทยที่ชนะเลิศจากการประกวดได้มีโอกาสโชว์ผลงาน เปิดโลกกว้างให้ศิลปินจากประเทศไทย ได้รู้จักกับผู้คนในแวดวงศิลปะในหลายแขนง ภัณฑารักษ์ผู้คัดเลือกงานศิลป์ไปแสดงในพิพิธภัณฑ์ ผู้จัดการและเจ้าของแกลอรี่ ผู้คนทั่วไปที่สนใจ ชื่นชอบและรักงานศิลปะ ศิลปินและนักสะสมผลงานจากทั่วทุกมุมโลก เหมือนเป็นใบเบิกทางในการก้าวสู่การเป็นศิลปินอาชีพระดับนานาชาติ

สัญชัย อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเงินและสนับสนุนธุรกิจธนาคาร ธนาคารยูโอบี เล่าว่า โครงการประกวดจิตรกรรมยูโอบี UOB Painting of the Year ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 เป็นการผลักดัน ส่งเสริมสนับสนุนให้ผลงานศิลปะฝีมือศิลปินไทยได้รับความสนใจจากคนไทยด้วยกันเองมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินในประเทศไทยทั้งศิลปินมืออาชีพและศิลปินสมัครเล่นได้ทำตามความฝันและแสดงศักยภาพผ่านเวทีที่ได้รับการยอมรับจากสากล และยิ่งไปกว่านั้นเพื่อให้ผลงานศิลปะของศิลปินไทยได้ออกไปสู่สายตาของชาวต่างชาติอีกด้วย

จิตรกรรมยูโอบี เวทีสร้างดาวประดับวงการศิลปะไทยและนานาชาติ


สัญชัยบอกถึงความพิเศษของการประกวดจิตรกรรมยูโอบีว่า เป็นเหมือนเวทีที่ให้โอกาสศิลปินชาวไทยทั้งในระดับอาชีพ และสมัครเล่น แสดงฝีมือผ่านสายตาผู้คว่ำหวอดในแวดวงศิลปะทั้งไทยและต่างชาติให้ได้เห็น เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าศิลปินชาวไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติใด เพราะตลอดระยะเวลา 9 ปี ที่ยูโอบี ประเทศไทยได้มีการจัดงาน UOB Painting of the Year ได้มีศิลปินคนไทยชนะในเวทีประกวดระดับประเทศ พร้อมกับได้รับรางวัลชนะ ในเวที UOB Southeast Asian Painting of the Year ระดับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจัดขึ้น ณ ประเทศสิงคโปร์ ในปี 2017 อีกด้วย สิ่งนี้จึงเป็นการยืนยันให้เห็นแล้วว่าผลงานศิลปะของศิลปินไทยเริ่มได้รับการยอมรับในเวทีสากล

“จุดเด่นของการประกวดจิตรกรรมยูโอบี คือการไม่ปิดกั้นอิสระทางความคิดสร้างสรรค์ โดยเราไม่มีการกำหนดหัวข้อหรือธีมในการสร้างผลงาน เพราะเรามองว่าหากเรากำหนดตัวศิลปินเองก็จะมีกรอบความคิดที่จำกัด ไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลายได้ เวทีนี้จึงมีความแตกต่างจากเวทีอื่น และระหว่างการคัดเลือกผลงานเข้ารอบ มีการสัมภาษณ์ถึงแนวคิดโดยเปิดโอกาสให้ศิลปินได้พรีเซ้นต์และเล่าถึงแรงบันดาลใจ แนวคิดที่มาที่ไปของผลงาน เพราะบางทีการตัดสินเพียงแค่ผลงานอาจไม่ชัดเจน จะต้องทราบถึงวิธีการ กระบวนการทางความคิดของศิลปินอีกด้วย ถือเป็นการฝึกฝนเพราะเวลาชนะเลิศและเป็นตัวแทนไปแสดงผลงานในระดับภูมิภาคจะต้องเจอสถานการณ์แบบเดียวกัน จะได้พร้อมบอกเล่าให้คณะกรรมการระดับนานาชาติรับรู้ด้วย”

“นอกจากนี้เราเชื่อว่าศิลปะจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชนและสังคม เพราะศิลปะถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเป็นตัวเชื่อมโยงบุคคลเข้าด้วยกันที่มาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งศิลปะยังถือเป็นการเชิดชูวัฒนธรรมไทย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างสังคมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ไม่เพียงแต่การเติบโตด้านวัตถุเพียงอย่างเดียว” สัญชัยกล่าวทิ้งท้าย

จิตรกรรมยูโอบี เวทีสร้างดาวประดับวงการศิลปะไทยและนานาชาติ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมพร รอดบุญ ภัณฑารักษ์

และหากกล่าวถึงเทรนของโลกสำหรับวงการศิลปะนานาชาติที่เขามองหาผลงานชิ้นไหนแบบไหนจะได้รับคัดเลือกให้ไปจัดแสดง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับศิลปินไทย ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมพร รอดบุญ ภัณฑารักษ์ผู้คัดเลือกผลงานศิลปะในการสะสมของพิพิธภัณฑ์ในระดับประเทศและนานาชาติ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เล่าถึงหลักเกณฑ์หรือสิ่งที่ต่างชาติต้องการจากศิลปะไทยหรือผลงานศิลปะฝั่งเอเชียว่า เขามองหางานที่มีความเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงเรื่องของเวลา เรื่องของคุณค่า และเรื่องของคุณภาพ รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ในการทำผลงานศิลปะนั้นๆ ออกมา ซึ่งต้องมีทั้งสาระปรากฏในชิ้นงาน แนวคิด และเทคนิควิธีการนำเสนอ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั่นคือการมองดูทุกองค์ประกอบของชิ้นงานที่ศิลปินผู้ถ่ายทอด ซึ่งแน่นอนต้องสอดคล้อง หรือตรงกับคอนเซปต์ที่เจ้าของหอศิลป์ หรือเจ้าของแกลเลอรี่ต้องการนำเสนอ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมพร ย้ำว่าศิลปินที่ต้องการสำเร็จในต่างประเทศนั้นอันดับแรกเลยศิลปินผู้นั้นจะต้องมีชิ้นงานหรือผลงานที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักในประเทศของตนเองก่อน และเป็นที่ยอมรับ ขณะเดียวกันการเป็นศิลปินที่มีความฝัน จำเป็นที่จะต้องฝึกฝน และพัฒนาผลงานของตนเองอย่างสม่ำเสมอ และต้องมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ในส่วนของปานพรรณ ยอดมณี ศิลปินผู้ชนะเลิศการประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 1 อีกทั้งยังคว้ารางวัลใหญ่ 11thBenesse Prize ในงาน “สิงคโปร์ เบียนนาเล่ 2016” ผลผลิตจากการต่อยอดจากเวทีการประกวดจิตรกรรมยูโอบีในประเทศไทย เล่าว่าเวทีการประกวดจิตรกรรมยูโอบี เป็นเวทีที่เปิดโอกาสและเปิดประสบการณ์ให้ตนเองเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อย้อนกลับไปเมื่อช่วง 9 ปีที่แล้ว จำได้ว่ายังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรีปีที่ 2 โดยวันนั้นได้เห็นใบประกาศรับสมัครผู้เข้าร่วมประกวดผลงานทางศิลปะ และเห็นว่าเป็นเวทีประกวดที่มีการจัดขึ้นในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจเอาชิ้นงานที่ทำขณะเรียนเป็นผลงานเข้าร่วมประกวด

จิตรกรรมยูโอบี เวทีสร้างดาวประดับวงการศิลปะไทยและนานาชาติ

ปานพรรณย้อนให้ฟังว่าในช่วงเวลานั้นการส่งผลงานเข้าร่วมประกวดคิดเพียงหาประสบการณ์ไมได้คาดหวัง หากไม่ได้รางวัลก็ไม่เป็นไร แต่พอทราบผลการประกวดและได้รางวัลชนะเลิศรู้สึกดีใจมาก ถือเป็นครั้งแรก และมองว่าเป็นใบเบิกทางให้เด็กคนหนึ่งกล้าที่จะฝันใหญ่ขึ้นด้วยการเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง หลังจากนั้นยังได้มีโอกาสออกไปเห็นโลกอีกใบหนึ่ง เมื่อมีโอกาสเดินทางไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ และได้พูดคุยกับศิลปิน ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย และอีกหลายๆ คนในหลายประเทศ พร้อมกันนี้ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมแข่งขัน ในเวทีต่างๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดอีกได้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่จะทำให้ศิลปินคนรุ่นใหม่ๆ มีกำลังใจที่จะต่อสู้และพัฒนาผลงานเข้าไปสู้กับเวทีอื่นๆในต่างประเทศ

จิตรกรรมยูโอบี เวทีสร้างดาวประดับวงการศิลปะไทยและนานาชาติ ผลงานของ ปานพรรณ ยอดมณี ที่คว้ารางวัลใหญ่ 11thBenesse Prize ในงาน “สิงคโปร์ เบียนนาเล่ 2016”

ด้านศิลปินไทยจากเวทีจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 8 สุกิจ ชูศรี สามารถชนะรางวัล UOB Southeast Asian Painting of the Year ประจำปี 2560 ระดับภูมิภาคอาเซียน อีกหนึ่งความสำเร็จของศิลปินไทยที่ได้รับการต่อยอดจากยูโอบี บอกเล่าประสบการณ์ว่า การทำงานของตนจะคิดในเชิงบวก ซึ่งมองว่าชิ้นงานของตนอาจจะเป็นจุดเล็กๆที่ทำให้คนหันมาทำความดีได้ อีกทั้งเพื่อเป็น แนวทางให้กับนักศึกษาที่มีความสนใจจะเข้าร่วมส่งผลงานประกวด

สุกิจบอกแนวทางและวิธีการคิดว่า สำหรับตนเองแล้วการทำงานนั้นจะต้องมีเป้าหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาและต้องหมั่นที่จะฝึกฝนอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการทำงานจะอาศัยการสังเกตจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวอย่างง่ายๆ แต่ที่เหลือคือเราต้องศึกษา ขณะเดียวกันการร่วมส่งผลงานประกวด จะทำให้เราเห็นความชัดเจน และกล้าที่จะเอาผลงานของตัวเองออกไปให้คนอื่นดู ซึ่งตัวศิลปินเองจะต้องหาวิธีการที่ทำยังไงก็ได้เพื่อทำให้คนได้รู้จักผลงานของเรา ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาผลงานของตัวเองไปเข้าร่วมโชว์ใน exhibition ด้านงานศิลปะ เพื่อทำให้เราได้หา Connection เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสามารถนำมาต่อยอดผลงานของตนเอง เพื่อก้าวไปสู่การเป็นมืออาชีพ ดังนั้นเมื่อโอกาสมาแล้วเราก็ควรที่จะคว้าโอกาสนั้นมาให้ได้ทั้งหมด

ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปีที่ธนาคารยูโอบีเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างศิลปินไทยให้เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก จากปานพรรณ และสุกิจ อาจเป็นตัวชี้วัดได้ดีว่าเวทีการประกวดจิตรกรรมยูโอบีตอบโจทย์ของศิลปินไทยได้อย่างแท้จริง

เพื่อค้นหาศิลปินอาชีพและสมัครเล่นประจำปี 2561 ธนาคารยูโอบีขอเชิญชวนศิลปินไทย โดยไม่จำกัด อายุ เพศ และการศึกษา มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานและส่งเข้าประกวดในเวทีการประกวดงานจิตรกรรมเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้ศิลปินได้ต่อยอดสู่การประกวดระดับภูมิภาค และมีโอกาสเข้าร่วมโครงการศิลปินพำนัก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ศิลปินไทย ที่ได้รับรางวัล หรือผู้ที่ได้รับคัดเลือกสามารถที่จะสร้างเครือข่ายพบปะตัวแทนหอศิลป์ และแกลเลอรี่ชั้นนำจำนวนมาก เพื่อต่อยอดสู่เส้นทางศิลปินอาชีพของตนเองที่ใฝ่ฝัน พร้อมกับลงมือทำ

โดยผู้สนใจสามารถส่งผลงานเข้าประกวดมาได้ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม – 2 กันยายน 2561 นี้ โดยจะมีงานประกาศผลรางวัลในวันที่ 2 ตุลาคม 2561 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.uobpoy.com

จิตรกรรมยูโอบี เวทีสร้างดาวประดับวงการศิลปะไทยและนานาชาติ ผลงานของ ปรียวิศว์ นิลจุลกะ หรือ "ปาล์ม Instinct"