ท่องเที่ยวและกีฬาเชียงรายจัดกิจกรรมปั่นจักรยาน "Hug Chiangrai BIKE Adventure in the city"
“Hug Chiangrai BIKE Adventure in the city : ปั่นเส้นทางเดียวเที่ยวได้รอบเมืองเชียงราย” กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วง Low Season
“Hug Chiangrai BIKE Adventure in the city : ปั่นเส้นทางเดียวเที่ยวได้รอบเมืองเชียงราย” กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วง Low Season
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดเชียงราย จัดกิจกรรมปั่นจักรยาน “Hug Chiangrai BIKE Adventure in the city : ปั่นเส้นทางเดียว เที่ยวได้รอบเมืองเชียงราย” กระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วง Low Season
นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงรายยังมีปัญหาช่วงฤดูการท่องเที่ยวสั้น โดยมีฤดูการท่องเที่ยวปีละ 5 เดือน ระหว่างเดือนธันวาคม ถึงเดือนเมษายน จึงได้เล็งเห็นความสำคัญในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อแก้ไขปัญหาช่วง Low Season และเพื่อให้เป็นไปตามนโนบายการพัฒนาและส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดเชียงราย จึงได้จัดกิจกรรม Chiang Rai Adventure ภายใต้โครงการปิดตาเปิดใจ สัมผัสเชียงรายเมืองน่าเที่ยว จุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อน (Chiang Rai Destination) จึงได้จัดกิจกรรมปั่นจักรยาน “Hug Chiangrai BIKE Adventure in the city : ปั่นเส้นทางเดียวเที่ยวได้รอบเมืองเชียงราย” ขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมคือ 1.เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดเชียงรายกลายเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยว 2.เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดเชียงรายสามารถมีฤดูกาลท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี 3.เพื่อนำเสนอกิจกรรมการท่องเที่ยวทางเลือกสู่กลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น และ 4.เพื่อเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน
นายเสริฐกล่าวว่า กิจกรรม “ปั่นเส้นทางเดียว เที่ยวได้รอบเมืองเชียงราย” ได้กำหนดจุดเริ่มต้นจาก อาคารเทิดพระเกียรติ 90 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ โดยจะปั่นจักรยานในระยะทางรวม 80 กิโลเมตร ผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเชียงราย คือ วัดห้วยปลากั้ง สวนรุกขชาติโป่งสลี วัดร่องขุ่น น้ำตกขุนกรณ์ สิงห์ปาร์ค และแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน วิถีวัฒนธรรมและเกษตรปลอดสารพิษ บ้านแม่สาด-เมืองรวง โดยแต่ละจุด Check Point จะมีกิจกรรมอันเป็นประโยชน์เพื่อสังคม หรือกิจกรรม CSR ให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ร่วมทำกิจกรรมพร้อมบันทึกภาพเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อชิงของรางวัลต่างๆ อาทิ “ตุ๊กตาน้องกอดอุ่น” ซึ่งเป็นมาสคอตตัวแทนการท่องเที่ยวที่น่ารักอย่างยิ่งของเมืองเชียงรายอีกด้วย
ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงรายระบุว่า กิจกรรมการปั่นจักรยานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมสมัครลงทะเบียนเข้ามามากถึง 613 คน ซึ่งตั้งเป้าไว้แค่ 300 คน แสดงให้เห็นว่าคนไทยเริ่มหันมาใส่ใจและรักในสุขภาพ อีกอย่างเส้นทางการปั่นก็น่าสนใจได้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆ ทั้งยังได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมในแต่ละจุดอีกด้วย
ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงภาพรวมและสถานการณ์การท่องเที่ยวว่า รายได้การท่องเที่ยวด้านการปั่นจักรยานปี 2560 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท ซึ่งแต่ละปีมีอัตราการเติบโตที่ 10% และเฉพาะในปี 2561 คาดว่าตัวเลขจะเติบโตถึง 1,700 ล้านบาท ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาปั่นจักรยานในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 10% มูลค่ากว่า 280 ล้านบาท ฉะนั้นมูลค่าโดยรวมสำหรับการท่องเที่ยวด้วยจักรยานในปีนี้ จึงอาจจะมีมูลค่าสูงเกือบถึง 2,000 ล้านบาท นี่เป็นกระแสการท่องเที่ยวโดยจักรยานที่เชื่อว่าจะยิ่งเพิ่มขึ้นในอนาคต
การที่จังหวัดเชียงรายได้เล็งเห็นโอกาสของกระแสการท่องเที่ยวโดยจักรยานนี้ กอปรกับเรามีเส้นทางท่องเที่ยวทั้งทางศิลปวัฒนธรรมและทางธรรมชาติมากมาย ที่สามารถพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวโดยจักรยานได้ จึงเป็นโอกาสอย่างยิ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวดังกล่าวทั้งในระดับจังหวัดและเป็นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเผยว่า กิจกรรม “Hug Chiangrai Bike Adventure in The City : ปั่นเส้นทางเดียวเที่ยวได้รอบเมืองเชียงราย ถือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง เพราะโดยปกติเราจะเห็นการปั่นเฉพาะปั่นไปในระยะทางยาวๆ แต่ในครั้งนี้ได้กำหนดให้มีจุดพักตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและจัดกิจกรรม CSR ในแต่ละที่อีกด้วย ผมเชื่อว่าการท่องเที่ยวโดยจักรยานเช่นนี้ มีส่วนทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับจักรยานเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ร้านจำหน่ายจักรยาน ร้านซ่อมจักรยาน แฟชั่นเสื้อผ้าและอะไหล่ตกแต่ง ตลอดจนกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การถ่ายภาพ การจำหน่ายของที่ระลึก รวมไปถึงสินค้าชุมชน และสินค้า OTOP เป็นต้น
“นอกจากนี้การปั่นจักรยานยังทำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักสถานที่ต่างๆ อย่างละเอียด และลึกซึ้งมากขึ้น เพราะสามารถสัมผัสเส้นทางวิถีชีวิตชุมชนได้อย่างไม่เร่งรีบ และมีส่วนเข้าไปสนับสนุนสินค้าท้องถิ่นต่างๆ ได้ด้วยตนเอง จึงถือว่าช่วยสร้างรายได้พร้อมกับลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เพราะเม็ดเงินได้ลงไปในชุมชนโดยตรง นอกจากนี้ข้อมูลจากนักปั่นยังสามารถสะท้อนให้เห็นช่องว่างต่างๆ ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน รวมถึงสามารถส่งต่อการชื่นชมและเผยแพร่สิ่งดีงามที่นักปั่นได้พบเจอได้อีกด้วย ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมในวันนี้จะสามารถสร้างประโยชน์และสามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ได้”
ติดต่อผู้ประสานงานสื่อมวลชน
จีรศักดิ์ หลักเมือง (จี) โทร 064-990-5652